"ไม่มีวันทรยศต่อประชาชนและความถูกต้อง"!!! "ผอ.นิด้าโพล"ประกาศลาออก อ้างหากไร้เสรีภาพทางวิชาการ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง

"ไม่มีวันทรยศต่อประชาชนและความถูกต้อง"!!! "ผอ.นิด้าโพล"ประกาศลาออก อ้างหากไร้เสรีภาพทางวิชาการ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง

28 ม.ค.61 ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์  ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล โพสต์ข้อความ ทางเฟซบุ๊ก "Arnond Sakworawich"ระบุว่า จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ผอ.นิด้าโพล ในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) โดยระบุว่า ...

ผมลาออกจากตำแหน่ง ผอ นิด้าโพลล์ พรุ่งนี้เช้าครับ เสรีภาพทางวิชาการและการให้เกียรติกัน สำคัญที่สุดสำหรับผม แม้ไม่มีตำแหน่งใดๆ ผมก็มีที่ยืนในสังคมได้เพราะยืนอยู่บนความถูกต้องมาโดยตลอด. ผมสนับสนุนรัฐประหารและสนับสนุนรัฐบาลอยู่ แต่ถ้าสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ผมก็ไม่จำเป็นต้องเลีย top boot นะครับ ยิ่งมีหลักฐานทางวิชาการที่รัดกุมเป็นความคิดเห็นของประชาชน หน้าที่ผมในฐานะนักวิชาการยิ่งต้องนำเสนออย่างตรงไปตรงมา. ตำแหน่งบริหารใดๆ ในสถาบัน ผมไม่รับเงินค่าตอบแทนอยู่แล้วเพราะถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมือง ต้องทำด้วยความเสียสละ และยืนอยู่บนความกล้าหาญทางวิชาการ เสรีภาพทางวิชาการ และความกล้าหาญทางจริยธรรม หากไม่สามารถธำรงสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง ผอ นิด้าโพลล์ ซึ่งต้องทำหน้าที่สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนอย่างซื่อสัตย์ และกล้าหาญ ผมจะไม่มีวันทรยศต่อประชาชนและความถูกต้อง

 

"ไม่มีวันทรยศต่อประชาชนและความถูกต้อง"!!! "ผอ.นิด้าโพล"ประกาศลาออก อ้างหากไร้เสรีภาพทางวิชาการ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง

ทั้งนี้ สาเหตุของการประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการนิด้าโพลล์ นั้น รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Phichai Ratnatilaka Na Bhuk" ระบุว่า ...

 

ได้ข่าวยืนยันมาแล้วว่า โพลสุดท้ายที่ทำเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เผยแพร่สัปดาห์นี้ ของ ผอ.นิด้าโพล เป็นเรื่องเกี่ยวกับการยืมนาฬิกา ถูกผู้บริหารสถาบันระงับการเผยแพร่ ท่าน ผอ. จึงตัดสินใจลาออก เอวัง..ครับ สำหรับเสรีภาพทางวิชาการ ในสถาบันการศึกษาระดับสูงของประเทศ หากผู้บริหารมีวิธีคิดเช่นนั้น"

 

"ไม่มีวันทรยศต่อประชาชนและความถูกต้อง"!!! "ผอ.นิด้าโพล"ประกาศลาออก อ้างหากไร้เสรีภาพทางวิชาการ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในตำแหน่ง

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก "Arnond Sakworawich"  ,  "Phichai Ratnatilaka Na Bhuket"