โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

นับว่าเป็นข่าวใหญ่สะเทือนป่า เขย่าเก้าอี้ จนต้องนั่งไม่ติดอย่างแน่นอน เมื่อนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี จับกุม พร้อมพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2561  บริเวณป่าห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาน้ำโจน เจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง  

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายเปรมชัย กับพวกดำเนินคดีในฐานความผิด

1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
5. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
 6. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป

ทั้งนี้คณะนายเปรมชัย  กับพวกรวม 4 คน เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก -หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง -หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 km) เมื่อวันที่3 ก.พ.ที่ผ่านมา
 

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

สำหรับ นายเปรมชัย กรรณสูตร เป็นถึงประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร โดยนายเปรมชัย มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 10 เมษายน 2556 จำนวน 820,484,470  หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน     19.56% จากจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น 5 ราย 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 นายเปรมชัย กรรณสูต ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกไปรายงานตัว ทำให้เป็นที่จับตาว่า สาเหตุที่ถูกเรียกตัว อาจจะ เป็นท่อน้ำเลี้ยง ของพรรคเพื่อไทย เนื่องมาจาก บริษัทอิตาเลียนไทย มีชื่อเป็นผู้รับเหมาในโครงการใหญ่หลายโครงการในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร จนมาถึง ยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย โปรเจคใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สีแดง สีม่วง  ท่าเรือน้ำลึกทวาย รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3 แสนล้านบาท แต่ภายหลังการเข้าพบ คสช.ในครั้งนั้น นายเปรมชัย ให้ข้อมูลว่า ถูกเชิญไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจทั่วๆไปเท่านั้น 

นอกจากนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ยังเป็นบริษัทผู้ก่อสร้าง โครงการก่อสร้างขยายถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ระยะทาง 15.5 กิโลเมตร ช่วงกิโลเมตรที่ 41-57 พร้อมกับก่อสร้างสะพานคู่และอุโมงค์ทางลอดสำหรับให้สัตว์เดินลอดข้าม เชื่อมผืนป่าระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับทับลาน เพื่อให้สัตว์เดินข้ามด้านใต้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ใน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 2548 

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

ล่าสุด บ.บู๋ บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร นักเขียน และคอลัมนิสต์กีฬาชื่อดัง ถึงกับอดไม่ไหว ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวเอาไว้อย่างดุเดือดว่า 

"คนหนึ่งเคยยิงตัวตาย เพื่อรักษาป่า แต่พวกมึงกลับเข้าไปทำลายของส่วนรวมที่คนอื่นเขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้อง ไม่มีอะไรจะพูด

นอกจากคำว่า...ไอ้หน้าเ..ี้ย!"

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

สืบเนื่องจากเรื่องราวนี้ เรามาทำความรู้จักกับ สืบ นาคะเสถียร (31 ธันวาคม พ.ศ. 2492 - 1 กันยายน พ.ศ. 2533) เป็นนักอนุรักษ์และนักวิชาการด้านทรัพยากรธรรมชาติชาวไทย มีชื่อเสียงจาการพยายามปกป้องแก่งเชี่ยวหลานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และการฆ่าตัวตายเพื่อเรียกแหะร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

 

สืบศึกษาระดับประถมตอนต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดปราจีนบุรี มีผลการเรียนดีมาตลอด เมื่อว่างเรียนก็ช่วยเหลือครอบครัวทำไร่ไถนา และยกเสริมแนวคันนาเองเพื่อไม่ให้มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน เมื่อจบประถมศึกษาปีที่ 4 ได้เรียนต่อที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ครั้นจบมัธยมศึกษาปีที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2514 หลังจากสำเร็จการศึกษาได้เข้าทำงานที่การเคหะแห่งชาติ จนถึงปี พ.ศ. 2517 และได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสาขาวิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2518

เมื่อสำเร็จปริญญาโท สืบเข้ารับราชการเป็นพนักงานป่าไม้ตรี กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ ขณะนั้นกองอนุรักษ์สัตว์ป่าเพิ่งก่อตั้งขึ้น และสืบเลือกหน่วยงานนี้เพราะต้องการงานเกี่ยวกับสัตว์ป่า งานแรกของสืบคือการประจำอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ จังหวัดชลบุรี ณ ที่นั้น สืบได้ทราบว่ามีผู้ทรงอิทธิพลบุกรุกทำลายป่าเป็นจำนวนมาก

ต่อมาปี พ.ศ. 2522 สืบได้รับทุนการศึกษาจากบริติชเคาน์ซิล จึงศึกษาระดับปริญญาโทอีกที่สาขาอนุรักษวิทยา มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ และสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2524 แล้วกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ มีส่วนร่วมฝึกอบรมพนักงานพิทักษ์ป่าหลายรุ่น ครั้นปี พ.ศ. 2526 สืบขอย้ายไปเป็นนักวิชาการประจำกองอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อทำหน้าที่วิจัยสัตว์ป่าเพียงอย่างเดียว

ในระยะนี้ สืบได้ทำงานทางวิชาการอันเป็นที่รักของเขาอย่างเต็มที่ จึงผูกพันกับสัตว์และป่า งานวิจัยเริ่มแรกว่าด้วยจำนวน ชนิด พฤติกรรม และการทำรังของนก สืบยังริเริ่มใช้เครื่องมือสมัยใหม่บันทึกการวิจัย เช่น กล้องวีดิทัศน์ กล้องถ่ายภาพ และการสเก็ตซ์ภาพ ข้อมูลของสืบกลายเป็นผลงานวิจัยสัตว์ป่าชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งในภายหลัง เช่น สไลด์ภาพสัตว์ป่าหายาก กับทั้งวีดิทัศน์ความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าและการทำลายป่าในประเทศไทย ทีสืบผลิตขึ้นเองทั้งสิ้น

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

 

 

คุณสืบได้เป็นหัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าในพื้นที่มากกว่าหนึ่งแสนไร่ แต่มีงบประมาณเริ่มต้นเพียงแปดแสนบาท ไม่มีการอนุมัติอุปกรณ์ช่วยชีวิตสัตว์ป่า แต่สืบมิได้ย่อท้อคงพยายามทำงานและศึกษาข้อมูลทั้งทางหนังสือและพรานท้องถิ่น

ในปี พ.ศ. 2528 สืบได้ติดตามนักวิจัยชาวต่างชาติซึ่งได้รับทุนจากนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟิก พร้อมด้วยอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าไปสำรวจกวางผา สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ในดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ เวลานั้น ชาวบ้านจุดไฟล่าสัตว์จนเกิดไฟป่า คณะของสืบหนีไฟป่าเป็นโกลาหล และคำนึง ณ สงขลา เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ตกหน้าผาถึงแก่ความตาย

ในปี พ.ศ. 2529 สืบได้เป็นหัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าตกค้างในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) บริเวณแก่งเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สืบได้ช่วยอพยพสัตว์ป่าที่ตกค้างอยู่ในแก่งเพราะปัญหาการสร้างเขื่อนจนเกิดน้ำท่วม ช่วยเหลือสัตว์ได้ 1,364 ตัว ส่วนมากที่เหลือถึงแก่ความตาย สืบจึงเข้าใจว่า งานวิชาการเพียงอย่างเดียวไม่อาจช่วยพิทักษ์ป่าซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติได้ ในภายหลังจึงได้ร่วมกิจกรรมหลายอย่าง เช่น คัดค้านรัฐบาลในการที่จะสร้างเขื่อนน้ำโจน ในบริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี สืบยังได้รายงานผลการอพยพสัตว์ต่อสาธารณชนเพื่อกระตุ้นให้สังคมตระหนักภัยป่า โดยยืนยันว่าการสร้างเขื่อนมีโทษมากกว่าคุณ เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติชนิดที่ชดเชยภายหลังมิได้ แต่ความพยายามของสืบนั้นไร้ผล จนกระทั่งนักอนุรักษ์ได้รวมกลุ่มสนับสนุนสืบ โครงการสร้างเขื่อนน้ำโจนจึงระงับไป

ระหว่างนั้น สืบได้เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฏร์ธานีอีกตำแหน่ง และปี พ.ศ. 2530 ได้ปฏิบัติงานในโครงการศึกษาผลกระทบสภาพแวดล้อมเพื่อพัฒนาพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงในจังหวัดนราธิวาสด้วย

ในปี พ.ศ. 2531 สืบกลับเข้ารับราชการที่กองอนุรักษ์สัตว์ป่า และพยายามเสนอให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกเพื่อเป็นหลักประกันว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดังกล่าวจะได้รับการพิทักษ์รักษาถาวร

ปลายปี พ.ศ. 2532 สืบได้รับทุนศึกษาปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ และได้เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้งด้วย ครั้นปี พ.ศ. 2533 สืบจึงตั้งกองทุนเพื่อรักษาป่าห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวร และได้ดำเนินกิจกรรมหลายประการเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและอพยพสัตว์ป่าที่ยังตกค้างอยู่ในแก่งเชี่ยวหลาน

ความพยายามของสืบนั้นประสบผลสำเร็จน้อย เพราะผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ให้ความสนใจ ชาวบ้านท้องถิ่นก็สนใจปากท้องมากกว่า จึงรับจ้างผู้มีอิทธิพลเข้ารุกรานป่าเสมอมา สืบเสนอให้สร้างแนวป่ากันชนเพื่อกันชาวบ้านออกนอกแนวกันชน และพัฒนาพื้นที่ในแนวกันชนให้เป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเช่นกัน

ด้วยความที่ต้องรับแรงกดดันกดดันหลายๆด้าน และเป็นการเรียกร้องต่อหน่วยงานภาครัฐให้ใส่ใจต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง สืบจึงตัดสินใจประท้วงด้วยการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนในบ้านพักของสืบที่ห้วยขาแข้ง

 

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2533 สืบยังคงปฏิบัติงานตามปกติ และได้เตรียมจัดการทรัพย์สินที่หยิบยืมและทรัพย์สินส่วนตัว และอุทิศเครื่องมือเครื่องใช้ในการศึกษาวิจัยด้านสัตว์ป่าให้แก่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ สั่งให้ตั้งศาลเคารพดวงวิญญาณเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตในการรักษาป่าห้วยขาแข้ง ในช่วงหัวค่ำของสืบยังคงปฏิบัติตัวพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตามปกติดั่งเช่นเคยทำ ครั้นช่วงดึกสืบขอลากลับไปบ้านพัก โดยกลับไปเตรียมจัดการทรัพย์สินที่เหลือและได้เขียนจดหมายหกฉบับ มีเนื้อหาสั้นๆชี้แจงการฆ่าตัวตาย จนกระทั่งเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 มีเสียงปืนดังขึ้นจากบ้านพักของสืบหนึ่งนัด จนกระทั่งช่วงก่อนเที่ยงของวันจึงได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เข้าไปดู ซึ่งก่อนหน้าเข้าใจว่าสืบไม่สบาย และเมื่อเข้าไปพบร่างของสืบนอนตะแคงข้างห่มผ้าเรียบร้อย พอเข้าไปใกล้จึงได้เห็นอาวุธปืนตกอยู่ข้างๆ และเห็นบาดแผลที่ศีรษะด้านขวา สืบได้จบชีวิตลงอย่างเตรียมตัวและพร้อมอย่างสงบ

สองสัปดาห์ต่อมา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จึงประชุมกำหนดมาตรการป้องกันการบุกรุกป่าห้วยขาแข้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สืบได้พยายามขอให้ประชุมมาแล้วหลายครั้ง จึงมีผู้กล่าวว่า ถ้าไม่มีเสียงปืนในวันนั้น ก็ไม่มีการประชุมดังกล่าว

โคตรเดือด!!! "บ.บู๋"อดไม่ไหวซัด แก๊งประธานอิตาเลียนไทย "ไอ้หน้าเหี้.." แรงจนโซเชียลแห่แชร์ถล่มทลาย!!!(คลิป)

Cr.บอ.บู๋ / wikipedia