"บิ๊กฉัตร" ย้ำไทยมีความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา IUU อย่างเป็นระบบ

"บิ๊กฉัตร" ย้ำไทยมีความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา IUU อย่างเป็นระบบ

13 ก.พ.61  พลเอก ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงประเด็นสำคัญของการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหารการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ว่าการแก้ปัญหาเรื่องการประมงว่า มี 2 ประเด็น คือ 1 ออกใบอนุญาตการทำประมง ปี 2561-2562 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกต้องมีใบอนุญาตจากกรมประมง แต่เรือจะต้องต่ออายุกับกรมเจ้าท่า ขณะนี้ได้มาทำงานร่วมกันให้ใบอนุญาตออกพร้อมกัน โดยดำเนินการได้ตั้งแต่ 31 มีนาคม 2561 เพื่อทำการออกใบอนุญาตการทำประมงและการใช้เรือตามลำดับ ขณะนี้ชาวประมงได้ยื่นความจำนงแล้วกว่า 8,800 ลำ นอกจานี้ คณะกรรมการประมงแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบร่วมกันว่าควรจะประกาศว่าประเทศไทยปลอด IUU  ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือกับทาง EU และจากนั้นจะได้ดำเนินการแจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป 

สำหรับการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ ได้มอบหมายให้แก่กระทรวงต่างประเทศเข้าไปดำเนินการสื่อสารเรื่องดังกล่าวออกไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และเกิดความเข้าใจตรงกันว่า รัฐบาลไทยได้มีความพยายามผลักดันในเรื่องนี้พร้อมมีนโยบายที่ชัดเจน เข้มข้น มีการติดตามอยู่ตลอดระยะเวลา และมีการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทั้งระบบ

ส่วนเรื่อง การแก้ไขปัญหาเรื่องวิทยุของเรืองประมงที่ไม่ถูกต้องกฏหมายนั้น กสทช. ได้กำหนดกติกา 2 ประเด็น คือ  1) ยกเว้นการไม่เสียค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียน 5,000 บาท ต่อเครื่อง  2) ใครที่มีวิทยุให้ไปขึ้นทะเบียนภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้ได้หมดเขตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง กสทช. ได้ให้ความร่วมือโดยได้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 180 วัน โดยครบกำหนดในวันที่ 22 เมษายน  2561
 

พร้อมกันนี้ ในส่วนของตู้ ATM สำหรับไว้บริการแรงงานต่างด้าวที่ทำงานเกี่ยวกับเรือประมงนั้น กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการประสานสถาบันการเงิน จำนวน 7 แห่ง ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จกว่า 80 เครื่อง พร้อมให้ความร่วมมือเร่งด่วนเกี่ยวกับขยายตู้ ATM ที่มีภาษาประเทศเพื่อนบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

 

"บิ๊กฉัตร" ย้ำไทยมีความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา IUU อย่างเป็นระบบ