- 22 ก.พ. 2561
ทนายตั้ม ออกมาเผยถึงปมสาเหตุ อีกหนึ่งพิรุธสำคัญ ในคดีหวยอลเวง 30ล้านบาท สะเทือนเมืองไทย
จากกรณีที่ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ให้มาปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากต้นสังกัด ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยมีรายงานว่าเพื่อให้การสืบสวนคดีหวย 30 ล้านบาท เป็นไปด้วยความโปร่งใส เเม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีกระเเสข่าวออกมาว่า มีข้อสรุปหวยอลเวง 30ล้านบาท น่าจะเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ จากพยานหลักฐานต่างๆที่มี รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 3 ราย เป็นพลเรือน 2 ราย และตำรวจระดับนายพล 1 ราย
โดยทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ลงนามในหนังสือคำสั่งเลขที่ 10/2561 ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งอนุมัติให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญา ระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ ผู้กล่าวหา กับ ร.ต.ท. จรูญ วิมูล ผู้ต้องหา ข้อหาลักทรัพย์ เเละคดีอาญา จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย โดยให้ไปรายงานตัวกับพล.ต.ท.สุรพล พินิจชอบ ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร. ในวันที่ 22 ก.พ.2561 เวลา 14.00 น. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้จากคำสั่งเด้ง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้มีข้อมูลเพิ่้มเติมว่า ชุดสืบสวน บก.ป. พบด้วยว่านายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี อาจเข้าข่ายกระทำความผิดอาญา ถึงแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีโดยตรง ( มีการอ้างว่า จากการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีหวย ได้กล่าวพาดพิงมาถึงตัวของพล.ต.ต.สุทธิ ในการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่สุจริตและเป็นธรรม เปลี่ยนเเปลงสำนวน) มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะกับคู่ความ รวมทั้งมีการล้วงลูกการทำงานของพนักงานสอบสวนด้วยการแก้ไขปรับแต่งสำนวนการสอบสวนให้ดูน่าเชื่อถือ ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวน บก.ป.กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อรายงานไปยัง บช.ก.พิจารณาว่าจะดำเนินคดีพร้อมกับผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนที่กำลังจะถูกออกหมายจับ 2 คน หรือไม่
ที่สำคัญ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ซองลอตเตอรี่ ของ ลุงจรูญ ที่นำมามอบให้กับร้อยเวร พร้อมได้มีการจัดเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของร้อยเวร เเต่กลับถูกรื้อค้นหายไปอย่างน่าสงสัย ก่อนทำการส่งไปตรวจลายนิ้วมือ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนชุดของบช.ภ.7 ซึ่งรับไม้ทำคดีต่อ กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ อ้างว่าไม่จำเป็นต้องส่งซองลอตเตอรี่ไปพิสูจน์ ที่สำคัญยังไม่มีการบันทึกไว้ในรายงานการสอบสวน เเละกล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทาง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และทนายความของร.ต.ท.จรูญ โพสต์เฟซบุ๊ค (ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ) ให้ความเห็นไว้ว่า ...
.
ร้อยเวรเคยบอกกับผมว่าโต๊ะทำงานโดนงัดในโรงพัก ก็ถามน้องว่าในโรงพักโดนรื้อได้ยังไงตรงนั้นมีกล้องไหม คำตอบคือมุมนั้นไม่มีกล้อง คำถามผมต่อไปคือคนนอกจะกล้าขนาดนี้เหรอ แล้วคนนอกจะรู้เรื่องมุมกล้องได้ยังไง
เอาเป็นว่าคนที่น่าสงสัยที่สุดคือพ.ต.ท.คนหนึ่ง ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างพยานหลักฐานเท็จ รอดูกันต่อไปครับอาจจะมีคลิปเสียงนายพลตำรวจ หรือนายพันตำรวจในภาค 7 คุยกับครูหรือพยานปรึกษาเรื่องทำพยานหลักฐานเท็จก็ได้
.
.
ขอบคุณ
ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ