"วิรัช"ปชป..จวกสนช.แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ล้มกระดาน7กกต.ไม่ต่างคว่ำร่างรธน.ฉบับบวรศักดิ์ ยึกยักยื้อเลือกตั้ง

"วิรัช"ปชป.จวกสนช.แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ล้มกระดาน7กกต.ไม่ต่างคว่ำร่างรธน.ฉบับบวรศักดิ์ ยึกยักยื้อเลือกตั้ง

23 ก.ย.61นายวิรัช ร่มเย็น กรรมการบริหารพรรค พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณี มติในที่ประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เห็นชอบว่าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ทั้ง 7 คน อีกทั้งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ยังได้ปฏิเสธถึงมติดังกล่าวไม่มีใบสั่งจากใครนั้น สังคมคงไม่เชื่อ เพราะทั้งนายพรเพชรและสมาชิกสนช.ต่างมีตำแหน่งมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และกรณีนี้ไม่ใช่การยื้อเวลาจัดการเลือกตั้งครั้งแรก เพราะเคยเกิดขึ้นตอนที่สภาปฏิรูปแห่งชาติโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญปี2558 ฉบับที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานจนเป็นเหตุให้ สปช.และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดนั้นต้องพ้นจากตำแหน่งไปตามกันเป็นแฝดอิน-จัน

“นายบวรศักดิ์เองถึงกับเอ่ยปากยอมรับว่า คสช.ต้องการอยู่ต่อลากยาว เหตุการณ์นี้ก็ทำนองเดียวกัน แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีจะบอกว่า ใช้เวลาแค่ 3เดือนโดยเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ แต่ในทางปฏิบัติอาจใช้เวลามากกว่านี้ เนื่องจากผู้สมัคร กกต.ต่อหลังจากนี้ แม้จะมีคุณสมบัติขั้นเทพก็อาจไม่กล้าลงสมัคร เพราะเกรงว่าสนช.อาจคว่ำอีกก็ได้ ลงมาก็เปลืองตัวเปล่า หรือหากวิกฤตสุดคือ อาจไม่มีผู้ลงสมัครเป็น กกต.เลย หรือ ไม่ครบ 7 คนตามกฎหมาย กกต. กำหนด เมื่อจะแข่งขันแต่ไม่มีกรรมการกลางตามกติกา การแข่งขันก็เกิดขึ้นไม่ได้ สนช.ก็เป็นแค่ฝักถั่วแล้วแต่ผู้มีอำนาจจะกดปุ่ม วันนี้ยิ่งอยู่ยิ่งชัด ซึ่งน่าสังเกตว่า ในโลกโซเชียลได้คำนวณพบว่าทุกเดือนที่ยืดเวลาเลือกตั้งออกไป เงินภาษีของประชาชนกว่า 28 ล้านบาทจะถูกจ่ายเป็นเงินเดือนสนช. ยังไม่รวมสิทธิพิเศษอื่นๆ และเบี้ยประชุม”

กรณีที่นายพรเพชร ระบุว่าการคว่ำ 7 กกต.ครั้งนี้ไม่กระทบโรดแมปการเลือกตั้ง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาตินั้น นายวิรัช มองว่า นี่เป็นการโกหกประชาชน ชนิดแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ เพราะข้อเท็จจริง สนช. ชุดนี้โหวตลงมติเซตซีโร่ กกต.ชุดปัจจุบัน ทำให้มีสถานะเป็นเพียง กกต.รักษาการณ์ ไม่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการจัดเลือกตั้งเนื่องจากเจตนาของ สนช.ต้องการให้ กกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งตามกฏหมาย กกต.ใหม่ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าลุยไฟโหวตเซตซีโร จนเกิดข้อครหามาตรฐานปลาสองน้ำของกรรมการในองค์กรอิสระ และในที่สุดชื่อว่าจะกลายเป็นปัญหางูกินหาง แล้วอย่างนี้จะไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้งได้อย่างไร ดังนั้นหากผู้มีอำนาจอยากยื้อจัดการเลือกตั้งก็ควรหาเหตุผลที่ดีชี้แจง ไม่ใช่ใช้ลูกเล่นทำให้สังคมมีความสงสัยเช่นนี้ และนี่เป็นความต่างในการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง กับคนที่มาจากการแต่งตั้งจากระบบเผด็จการ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องhttp://www.tnews.co.th/index.php/contents/418024