- 05 มี.ค. 2561
อาหารเช้าเป็นสิ่งที่เราควรกินเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน เพราะอาหารเช้ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมากมาย
อาหารเช้าเป็นสิ่งที่เราควรกินเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน เพราะอาหารเช้ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมากมาย แนะนำว่าต้องเป็นอาหารที่ได้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ และหลากหลาย พยายามเลือกกินธัญพืชไม่ขัดสี เสริมโปรตีนในอาหารเช้า นม ไข่ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา และกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงมีกากใยสูง ในที่นี้ จะมากล่าวถึง การรับประทานอาหารเช้าตามกรุ๊ปเลือด ที่จะช่วยส่งเสริมให้ สุขภาพดีอย่างไม่น่าเชื่อ
กรุ๊ปเลือด A
คนกรุ๊ปเลือดเอจะไม่ค่อยมีเอนไซม์และกรดในกระเพาะอาหารที่จำเป็นต่อการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดง จึงควรหันมาทานเนื้อสัตว์ ประเภทเนื้อปลาและเนื้อไก่แทน และเน้นทานอาหารประเภทโปรตีนให้มากขึ้นในมื้อเช้าและลดปริมาณลงในมื้อเย็น ที่สำคัญอย่าลืมเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย
อาหารที่ควรเลือก
เนื้อสัตว์ : ทานเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อไก่และเนื้อปลา เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากะพง เพราะย่อยง่ายเหมาะกับคนกรุ๊ปเอที่สุด
ผักผลไม้ : เน้นทานผักใบเขียวและใบเหลืองอย่างฟักทอง แครอท ผักโขม บร็อคโคลี่ และพืชตระกูลถั่ว เยอะๆ โดยเฉพาะถั่วเหลืองซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูงและยังช่วยลดปัญหาเรื่องของกรดในกระเพาะอาหารต่ำอีกด้วย
เครื่องดื่ม : นมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ แทนนมวัวที่คนกรุ๊ปนี้ย่อยไม่ค่อยได้
อาหารที่ควรเลี่ยง
เนื้อสัตว์ : อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกหรือแฮมเพราะมีสารประกอบไนเตรทอยู่มาก สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารซึ่งมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ และเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยและชีส ทำให้คนกรุ๊ปเลือดนี้แน่นท้องได้
ผักผลไม้ : แตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก
เครื่องดื่ม : นมวัวและโซดาทำให้กรุ๊ปเลือดเอรู้สึก แน่นท้องเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่วนชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ
มื้อเช้าที่แนะนำ
ข้าวต้มไก่ ข้าวต้มปลากระพง ปลานึ่งเต้าเจียว แซนด์วิชสลัดปูอัด แซนด์วิชทูน่า น้ำใบเตย น้ำผักโขม น้ำนมข้าวโพด
กรุ๊ปเลือด B
กรุ๊ปเลือดที่แสนโชคดี เพราะ เป็นกรุ๊ปเดียวที่สามารถทานอาหารประเภท นมวัว เนย และไข่ได้ตามปกติ ยกเว้น เนยแข็งรสเข้มเพราะจะย่อยยาก นอกจากนั้นยังทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย และผัก ผลไม้ก็ทานได้หลายชนิด โดนเฉพาะผักใบเขียว
อาหารที่ควรเลือก
เนื้อสัตว์ : เนื้อแกะ ไก่งวง และปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ ปลาจาระเม็ด ปลาตาเดียว ปลาแซลมอน และอาหารจำพวกนมเนยไข่ ให้ประโยชน์อย่างมากต่อกรุ๊ปเลือดบี
ผักผลไม้ : ผัก ผลไม้ให้ผลดีเกือบทุกชนิด ควรรับประทานมากผักมากๆ เพื่อป้องกันโรคที่มาจากเชื้อไวรัสและภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นง่ายในคนกรุ๊ปเลือดบี
เครื่องดื่ม : ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์คือ ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว
อาหารที่ควรเลี่ยง
เนื้อสัตว์ : หลีกเลี่ยง เนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง เพราะจะรบกวนระบบในร่างกาย
ผักผลไม้ : หลีกเลี่ยงมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ ข้าวโพด เพราะมีเลคติคซึ่งไปก่อกวนระบบย่อย ขัดขวางระบบเผาผลาญแคลอรีและระดับน้ำตาลในเลือด และถั่วต่างๆ ไม่ดีต่อคนกรุ๊ปเลือดบี โดยเฉพาะถั่วลิสงและงา ซึ่งจะรบกวนระบบอินซูลิน ที่จะทำให้เกิดการลดน้ำตาลในเลือดเฉียบพลัน
เครื่องดื่ม : หลีกเลี่ยงน้ำมะเขือเทศ น้ำข้าวโพด นมถั่วเหลือง
มื้อเช้าที่แนะนำ
ข้าวผัดกระเทียมห่อไข่ ไข่กระทะ สปาเกตตี้ซอสแดงใส่ไก่สับ ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น แพนเค้กกล้วยหอม คอร์นเฟลก น้ำผลไม้
กรุ๊ปเลือด O
กระเพาะของคนกรุ๊ปเลือดโอมีความเป็นกรดสูง ทำให้เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดงหลายชนิด แต่นมวัว และชีสแทบทุกชนิดจะย่อยยากสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ ที่สำคัญที่สุดคือ ควรงดการรับประทานแป้งสาลี เพราะเลคติน ในแป้งสาลีจะทำปฏิกิริยาที่เป็นผลเสียและรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย
อาหารที่ควรเลือก
เนื้อสัตว์ : ทานเนื้อได้แทบทุกชนิด เน้นปลาและอาหารทะเลเพิ่มแคลเซียมซึ่งร่างกายไม่ได้รับจากนมวัว และเพิ่มไอโอดีนเพื่อประโยชน์ของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งมักจะไม่คงที่
ผักผลไม้ : บร็อคโคลี่ สปินิช คะน้า สับปะรด พลับ พรุน ผักกาดคอส (ในซีซาร์สลัด) ปวยเล้ง บร็อคเคอลี หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายทะเล จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหาร
เครื่องดื่ม : น้ำสับปะรด หรือน้ำแบลคเชอรี่ จัดว่าเป็นน้ำที่ดีกับเลือดกรุ๊ปโอมาก เพราะช่วยลดการระคายเคืองของกระเพาะ
อาหารที่ควรเลี่ยง
เนื้อสัตว์ : หมู ห่าน แฮม นมและผลิตภัณฑ์จากนมให้บริโภคแต่น้อย เพราะร่างกายจะย่อยได้ยาก
ผักผลไม้ : ผักจากพวกกะหล่ำ ที่จะมีผลต่อระบบไทรอยด์ เห็ดหอม มะเขือยาว มันฝรั่งและข้าวโพดไม่ดีต่อกรุ๊ปเลือด ควรเลี่ยงส้มและเกรปฟรุต เพราะทำให้กระเพาะระคายเคือง
เครื่องดื่ม : กาแฟ จะเพิ่มกรดในกระเพราะอาหารที่มีมากอยู่แล้ว
มื้อเช้าที่แนะนำ
ข้าวผัดกระเทียม ข้าวต้มกุ้ง ผัดตำลึงปลาสับ น้ำสับปะรด น้ำแบลคเชอรี่ น้ำข้าวกล้องงอก
กรุ๊ปเลือด AB
คนกรุ๊ปเลือดเอบีเป็นพวกลูกผสมคล้ายกับกรุ๊ปเอ ตรงที่มีกรดในกระเพาะต่ำ ต้องรับประทานผักมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกรุ๊ป บี ตรงที่รับประทานเนื้อสัตว์ได้ ยกเว้นไก่แต่ต้องไม่บ่อยนัก สำหรับกรุ๊ปเอบี มะนาวช่วยย่อยและล้างระบบลำไส้ได้ แนะนำว่าควรเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำอุ่นที่บีบมะนาวสักครึ่งซีก
อาหารที่ควรเลือก
เนื้อสัตว์ : อาหารทะเล เช่น ปลาเทราต์ ปลาซาร์ดีน ปลาเก๋า ปลาทูน่า สามารถกิน นม เนย ไข่และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้
ผักผลไม้ : ผักสดกินได้แทบทุกชนิด สำหรับผลไม้นั้น องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง จะส่งผลดีต่อร่างกายในแง่ป้องกัน
เครื่องดื่ม : ชาคาโมมายล์และชาเขียวช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน
อาหารที่ควรเลี่ยง
เนื้อสัตว์ : อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกและแฮมซึ่งมีสารประกอบไนเตรต์เช่นเดียวกับคนกรุ๊ป เลือดเอ และเลี่ยงทานเนื้อวัวเนื้อหมูและปลาแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร
ผักผลไม้ : ผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง กล้วย ฝรั่ง และมะพร้าว เพราะย่อยยาก ส่วนผลไม้ตระกูลส้มจะทำให้กระเพาะของคนกรุ๊ปนี้ระคายเคือง และงดทานถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน
เครื่องดื่ม : ไม่ควรบริโภค คาเฟอีนมากเกินไป เพราะจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย หลั่งสารอะดรีนาลีน ซึ่งกรุ๊ปเลือดนี้มีมากอยู่แล้ว
มื้อเช้าที่แนะนำ
ข้าวต้มทะเล ข้าวไข่ข้นมะเขือเทศ เฟรนช์โทสต์ น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ น้ำส้มคั้น
.
โดย เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน โดยมีแอนติเจนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำและจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า “เลกติน” ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน
ถ้าไม่กินอาหารเช้าเป็นระยะเวลานานทำให้เสี่ยงต่อโรคต่างๆ ตามมา ดังนี้...
1. โรคอ้วน เพราะการอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจส่งผลให้มื้อต่อๆ ไปกินหนัก กินของหวานเข้าไป แถมอัตราการเผาผลาญยังลดลงอีกด้วย
2. โรคเบาหวาน การงดมื้อเช้าทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งหากกินอาหารเช้าเป็นประจำ จะช่วยลดภาวะผิดปกติดังกล่าวที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้ถึงร้อยละ 35-50
3. โรคอัลไซเมอร์ การรับประทานอาหารเช้าจะช่วยไปกระตุ้นพลังให้กับสมองและทำให้มีความจำที่ดีได้ แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายไม่สดชื่น กระปรี้กระเปร่า หลงลืม ความจำไม่ดี ไม่มีสมาธิ หากทำเป็นประจำต่อเนื่องนานๆ อาจนำมาซึ่งโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างแน่นอน
4. โรคเส้นเลือดในสมอง และโรคหัวใจ เพราะตอนเช้าหลังจากที่เราตื่นนอนเลือดของเราจะมีความเข้มข้นสูง ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ ซึ่งจากผลการวิจัยจากสมาคมแพทย์โรคหัวใจในอเมริกาเมื่อปี 2003 พบว่า การรับประทานอาหารเช้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าวได้
5. โรคกรดไหลย้อน โรคนี้ปัจจัยหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม และการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น บางรายไม่ชอบรับประทานอาหารเช้า แต่หันไปพึ่งพาเครื่องดื่มคาเฟอีน อย่าง กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ เพียงอย่างเดียว ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น
6.โรคนิ่ว การไม่รับประทานอาหารนานกว่า 14 ชั่วโมง จะทำให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีจับตัวกัน และหากปล่อยทำเป็นประจำไปนานๆ จะทำให้กลายเป็นก้อนนิ่วได้ ซึ่งการรับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะช่วยให้ตับปล่อยน้ำดีออกมาละลายไม่ให้คอเลสเตอรอลจับตัวกัน สามารถป้องกันการเกิดโรคนิ่วได้
นอกจากนี้ ทางด้าน อ.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. ได้อธิบายว่า อาหารทุกมื้อล้วนมีความสำคัญ แต่ในบรรดาอาหารแต่ละมื้อที่เรากิน มื้อที่มีความสำคัญที่สุดคือ ‘อาหารเช้า’ เนื่องจากร่างกายอดอาหารมาตลอดทั้งคืน อาหารเช้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานจากอาหารมื้อเย็น ไปเลี้ยงหัวใจให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย พอตื่นเช้ามา หลังจาก 9-10 โมง เราจะเริ่มหิว ดังนั้นจึงต้องกินอาหารเช้าเข้าไปทดแทนพลังงานที่เสียไป อีกทั้งอาหารเช้ายังช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายและสมอง ทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน การกินอาหารเช้ายังช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันโรคด้วนได้อีกด้วย
ขอบคุณ
http://www.thaijobsgov.com
.