- 06 มี.ค. 2561
อย่ามัวเหนียมเป็นอีแอบ !!?? โคตรเดือด "ทนายตั้ม" ตบฉาดใหญ่ "กุนซือครูปรีชา"....มั่นใจนักก็มาเลย อ่านแล้วรับรอง เจ็บ! (รายละเอียด)
วันที่ 6 มี.ค. 2561 บนเฟซบุ๊กของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์เดือดถึงบุคคลคนหนึ่งโดยทนายตั้มเรียกแทนว่าเป็น "กุนซือ" ของฝ่ายครูปรีชาที่เดินสายฟันธงออกรายการต่างๆว่าอย่างไรหวยก็เป็นของครู โดยทนายตั้มได้ท้าว่าถ้ามั่นใจในพยานหลักฐานเด็ดที่ว่ามาก็ให้นำมาแสดงเลยอย่ามัวเหนียมอาย
โดยโพสต์นี้ชาวเน็ตต่างพากันนึกถึง 2 บุคคลที่เพิ่งไปออกรายการทางช่อง 8 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมานั่นก็คือทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และ ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ในรายการ เจาะประเด็นข่าวเด็ดนั่นเอง
ซึ่งทนายตั้มได้โพสต์ข้อความไว้ว่า .....
เมื่อวานนี้ กุนซือครูเดินสายออกทีวียืนยันว่าหวยเป็นของครูแน่นอน เพราะกุนซือยังเล่นมุขเดิมๆ มาแนวคนไม่รู้กฎหมายที่ไม่สนใจหลักฐานเท็จที่ฝ่ายตนร่วมกันสร้างขึ้นมา จนถูกออกหมายจับ
ขณะเดียวกัน รอง ผบช.ก.ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าต้องมีการดำเนินคดีกับตำรวจใหญ่แน่นอนเพราะทำผิดกฎหมายชัดเจน และจะมีการออกหมายจับพยานเท็จเพิ่มเติม อีกทั้งพยานเพี้ยนที่โผล่ออกมาพร้อมคลิปเสียงล่าสุด ก็ต้องเรียกมาสอบสวนให้ละเอียดถึงที่มาที่ไป
คดีนี้จึงไปไกลเกินกว่าที่ฝ่ายครูจะมาตั้งคำถามเดิมๆซ้ำซากที่นักกฎหมายเขาไม่อ่านกัน กุนซือครูถ้าลึกซึ้งในข้อกฎหมายจริง คำถามนี้จะไม่หลุดออกจากปากอย่างเด็ดขาด ถ้ากุนซือมั่นใจว่ามีหลักฐานเด็ดอีก ก็เอาไปยื่นให้กองปราบได้เลย อย่าชักช้า จะได้มีส่วนร่วมเต็มๆไปเลย อย่าทำตัวเหนียมเป็นอีแอบอยู่เลยครับ
ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่มารอพบว่า ตำรวจกองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานไว้ได้ในขณะนี้ จะสามารถส่งฟ้องพนักงานอัยการได้ในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนจะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน เนื่องจากตนเองได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานอย่างรัดกุมและรอบคอบ เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้พนักงานอัยการต้องสั่งสอบเพิ่ม และหลังจากนี้จะมีการเชิญพยานมาให้ปากคำ โดยเฉพาะพยานของทั้งสองฝ่ายที่มีบทบาทในการให้ข้อมูล จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นใครขึ้นอยู่พนักงานสอบสวนจะพิจารณา
ขณะที่กรณีของนายตำรวจจังหวัดกาญจนบุรีที่มีคำสั่งย้ายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่ากรณีทุจริตต่อหน้าที่ ต้องดำเนินคดีอาญาอย่างแน่นอน แต่ขอให้เป็นไปตามพยานหลักฐานว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดหรือไม่ และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขอบคุณ
รายการเจาะประเด็นข่าวเด็ด
ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ