"กรมศุลฯ"แจงปมตรวจกล้อง โน้ตบุ๊ก นาฬิกาก่อนหิ้วออกนอกปท.เป็นระเบียบเก่ามาประกาศใหม่ยอมรับทำปชช.สับสน

นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดี รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร แถลงข่าวชี้แจงกรณีมีประเด็นตามโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน อาทิ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป นาฬิกา หรือของมีค่า ก่อนเดินทางออกไปต่างประเทศ  รวมถึงซื้อของที่ร้านค้าปลอดภาษีกลับไทยต้องจ่ายภาษีว่า ยืนยันว่ากรมไม่ได้มีการบังคับให้ผู้โดยสารทุกคน จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ก่อนเดินทางออกไปต่างประเทศ แต่ระเบียบนี้ทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารบางกรณี เช่นมีความจำเป็นต้องอุปกรณ์กล้องจำนวนมากไปถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ หรือนนำเครื่องเพชรไปจัดแสดงนิทรรศการ ก็สามารถแจ้งสิ่งของออกไปกอ่น เพื่อเวลานำกลับเข้ามาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาถูกตรวจสอบ หรือมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่อีก

สำหรับกรณีที่ผู้โดยสารซื้อสินค้าจากร้ารค้าปลอดอากรขาออก และนของนั้นกลับเข้าประเทศว่า หากนำของนั้นเข้ามาและของมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน  2  หมื่นบาท จะได้รับการยกเว้นค่าภาษี ยกเว้นสุราห้ามนำเข้ามาเกินคนละ 1 ลิตร และบุหรี่ ห้ามเกินคนละ 200 มวน หรือ 1 แถว แต่หากของนั้นมีมูลค่าเกินสองหมื่นบาท หรือนำเข้าสุรา เข้ามาเกินปริมาณที่กำหนด หรือนำเข้ามาเพื่อการค้า แม้จะราคาไม่ถึง  2 หมื่นบาท ก็ต้องเสียภาษี

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า "ขอย้ำว่า ขั้นตอนการปฏิบัติดังกล่างไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นระเบียบเดิมที่เคยใช้มานานนับสิบปีแล้ว แต่เนื่องจาก พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ได้ถูกยกเลิกและใช้พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 กรมฯ จึงจำเป็นที่จะต้องออกประกาศกรมศุลกากรฉบับใหม่ เพื่อให้แนวทางปฏิบัติยังคงมีผลบังคับใช้เช่นเดิม และไม่ใช่อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรมฯเก็บภาษีเป้าหมาย ถึงจะต้องมาจ้องรีดภาษีกับผู้โดยสารแต่ยอมรับว่าการออกประกาศดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนบางส่วนมีความสับสน ซึ่งทางกรมศุลกากรก็จะเร่งไปปรับแก้ถ้อยคำให้มีความชัดเจน และเข้าใจง่ายขึ้น ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนนี้"
 

อย่างไรก็ตาม ข้อปฏิบัติดังกล่าว ไม่ได้เป็นการบังคับ หรือมีบทลงโทษต่อผู้โดยสาร  ฉะนั้นขออย่ากังวลใจ เพราะในทางปฏิบัติจะมีเจ้าหน้าที่ ยืนจ้องจับตารีดภาษีผู้โดยสาร คนธรรมดาที่เดินทางเข้ามาประเทศอยู่แล้ว ยกเว้นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่นมีการเดินทางเข้าออกบ่อยผิดปกติ หรือมีการทำธุรกิจค้าขายรรับหิ้วสินค้า หรือพรีออเดอร์สินค้าผ่านเฟซบุ๊ก อินเตอร์เน็ตก็จะมีการสุ่มตรวจ