ดูกันอีกสักครั้ง !?!?วินาที “ตาขี่ซาเล้ง”โดนเด็กแว้นเฉี่ยวรถก่อนวิ่งมาเตะคนแก่หัวฟาดพื้น...พอจับได้คำสารภาพ!!ทำโซเชียลถึงกับขนานนาม..เด็กเปรต(มีคลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กดัง ได้แชร์คลิปภาพวงจรปิดในซอย ย่านประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีชายวัยรุ่นชายขี่รถจักยานยนต์สวนกับชายชราขี่รถซาเล้งสวนมา และเกิดเกี่ยวกันล้มลง จากนั้นชายวัยรุ่นได้นำรถไปจอดเก็บข้างทาง ก่อนเดินตามชายชราที่กำลังขับรถซาเล้ง และกระโดดเตะก่อนที่ชายชราจะหล่นลงจากรถและตามเข้าทำร้ายซ้ำ จนล้มฟุบลงกับพื้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา

 

ดูกันอีกสักครั้ง!?!?วินาที“ตาขี่ซาเล้ง”โดนเด็กแว้นเฉี่ยวรถก่อนวิ่งมาเตะคนแก่หัวฟาดพื้น...พอจับได้คำสารภาพ!!ทำโซเชียลถึงกับขนานนาม..เด็กเปรต

ซึ่งเรื่องดังกล่าวพันตำรวจเอกกำพล รัตนประทีป ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุมชายวัยรุ่นในคลิปวีดีโอ กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาสามารถจับกุมตัว นายนราธร โสดติยัง อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุได้

 

ดูกันอีกสักครั้ง!?!?วินาที“ตาขี่ซาเล้ง”โดนเด็กแว้นเฉี่ยวรถก่อนวิ่งมาเตะคนแก่หัวฟาดพื้น...พอจับได้คำสารภาพ!!ทำโซเชียลถึงกับขนานนาม..เด็กเปรต

 

เบื้องต้นจากการสอบสวน นายนราธร รับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง อ้างว่าเหตุที่ทำไป เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ที่ตนเองถูกชนแล้วหนีเรียกให้คนขับรถซาเล้งหยุดแต่ไม่ยอมหยุด อีกทั้งยังไม่ถามไถ่อาการบาดเจ็บของตน และยืนยันว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือตามที่มีการแชร์คลิป ขณะขี่รถจักรยานยนต์ตามที่ลงข่าวในโซเชี่ยล ทั้งนี้ ตนพร้อมรับผิดทุกข้อกล่าวหา และพร้อมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้จนกว่าจะหายดี ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกผิด และอยากกราบขอขมาคุณตาในสิ่งที่ทำลงไป

ขณะที่นางสาววนิดา มณีพันธ์ บุตรสาวนายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี ชายชราในคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการบิดาพ้นขีดอันตรายแล้ว เหลือรอเอ็กซเรย์สมองเพื่อตรวจดูความผิดปกติ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นบิดาของตนยอมรับว่าจำรายละเอียดไม่ได้ เนื่องจากอายุมากและสายตาไม่ดี ขณะที่ตนเองได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุแล้ว ยอมรับว่าครั้งแรกรู้สึกโกรธ แต่ผู้เสียหายได้ขอขมาโทษ รับสารภาพว่าเป็นคนผิด อีกทั้งจะช่วยเยียวยาค่ารักษาให้ ซึ่งก็เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งอาจเกิดกับใครก็ได้ และอยากเรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ให้ระวังไม่ควรขี่รถเร็ว และควรมีสติอยู่เสมอ