"สุริยะใส"ชี้"โกงเงินคนจน"สะเทือนใจคนทั้งประเทศ จี้สังคมจับตาหวั่นตัดตอนเอาผิดแต่ขรก.ตัวล่าง

18 มี.ค.61 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีการโกงเงินคนจนและคนไร้ที่พึ่ง ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เกิดขึ้นกว่า 50 จังหวัดและมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทนั้น มีการกระทำกันเป็นขบวนการ เพราะวิธีการคล้ายๆ กันในแต่ละจังหวัด และคงไม่ใช่เพิ่งเกิด น่าจะทำกันสะสมต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ซึ่งขบวนการนี้ต้องมีข้าราชการระดับสูงและนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเข้ามาเอี่ยวด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถโกงเงินคนจนได้ค่อนประเทศแบบนี้ 
 

“คนจนเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มคนจนที่ควรได้รับการช่วยเหลือมากที่สุด แต่คนรับผิดชอบกลับมีจิตใจอำมหิตวางแผน ออกแบบหาวิธีการโกงเงินคนจน ซึ่งไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียว แต่ตั้งใจโกงจนเป็นวาระ กรณีนี้จึงถือเป็นการประจานระบบราชการครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง”นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า สังคมต้องจับตาว่าเรื่องนี้จะถูกตัดตอนเอาผิดแค่ข้าราชการระดับล่างหรือไม่ จะขยายผลไปถึงข้าราชการการเมืองหรือผู้มีอำนาจที่บงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เรื่องนี้สะเทือนใจคนทั้งประเทศเมื่อคนในระบบที่ใกล้ชิดคนยากคนจนมากที่สุด กลับมาหาประโยชน์จากคนจนไร้ที่พึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นที่ยากจนที่สุดในสังคม และกรณีนี้จะเป็นอีกหนึ่งกรณีที่จะพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะปราบโกงจะทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาแค่ไหน นอกจากนี้รัฐบาลต้องปฏิรูปหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหมด เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในระบบราชการ การทุจริตหรือโกงเงินคนจนในระบบราชการครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาตัวบุคคลแต่เป็นความอำมหิตของระบบด้วย และยังเป็นภาพสะท้อนวิกฤติคอร์รัปชันที่รุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง หากไม่ยกระดับเรื่องนี้ไปสู่การปฏิรูประบบราชการ การพูดถึงไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติก็จะเป็นแค่การโฆษณาขวนเชื่อเท่านั้น
 

ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 17  มีนาคม พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งว่า ถึงการตรวจสอบเส้นทางเงิน สัปดาห์หน้าคาดว่าจะทราบผล จากการตรวจสอบ จากทางสำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งกำลังดำเนินการในส่วนนี้ และเริ่มพบร่องรอย ต้องสงสัยที่เป็นหลักฐานเพียงพอ ที่จะบ่งชี้ความเกี่ยวข้องในการทุจริตของบุคคลได้  ซึ่งมีรายงานว่าพบจำนวนเงินไม่มาก แต่เป็นธุรกรรมต้องสงสัย มีความเชื่อมโยงกลุ่มบุคคล จากการสืบสวนพบว่า มีการนำเงินสด ไปส่งมอบให้ข้าราชการระดับบิ๊กบางคน ที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง