"อภิสิทธิ์"แนะ"นายกฯ"ยื่นศาลรธน.ตีความ"พ.ร.ป.สส.ตัดปัญหาเกิดภายหลัง อาจถูกมองสมคบคิดกัน

"อภิสิทธิ์"แนะ"นายกฯ"ยื่นศาลรธน.ตีความ"พ.ร.ป.สส.ตัดปัญหาเกิดภายหลัง อาจถูกมองสมคบคิดกัน

19 มี.ค. 61  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่า ด้วยการได้มาซึ่งส.ว.เพียงฉบับเดียว ว่า การที่สนช.ไม่ยื่นตีความร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพราะสนช.คงกังวลว่า อาจถูกมองว่าเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้ยื้อการเลือกตั้งและทำให้กระทบต่อโรดแมป

ในส่วนของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.นั้น เราต้องดูว่า หากสนช.ไม่ยื่นตีความแล้ว ใครจะเป็นผู้ยื่นได้บ้าง ซึ่งจะมีขั้นตอนหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)  เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ในขั้นตอนนั้นตนมองว่านายกฯสามารถยื่นตีความได้ แต่ถ้าประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว มีผู้ได้รับผลกระทบ และมีการยื่นตีความอีกจะทำอย่างไร ตรงนี้คือสิ่งที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ก็เป็นกังวล  ถึงได้บอกให้สนช.ยื่นทั้ง 2 ฉบับ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ซึ่งหากมีปัญหาในภายหลังก็อาจถูกมองว่า ทำให้ทุกอย่างยืดไปอีก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า คนที่จะแก้ปัญหาตรงนี้คือพล.อ.ประยุทธ์ ต้องอย่าทำกฎหมายมีปัญหา และต้องไม่มีอะไรไปกระทบโรดแมป ถ้าต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วเกรงว่าจะกระทบโรดแมป แนะนำให้ยกเลิกในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประเด็นที่กำหนดให้มีผลบังคับใช้กฎหมาย 90 วัน หลังประกาศราชกิจจานุเบกษาออกไปเสียก่อน

พล.อ.ประยุทธ์บอกได้ บอกอะไรสนช.ก็ทำตาม ไม่ต้องบอกว่าบังคับหรือสั่งการสนช.ไม่ได้ แต่นายกฯสามารถบอกได้ว่าเป็นนโยบายว่าเรื่อง 90 วันนี้ไม่จำเป็นแล้ว สนช.ก็จะได้เข้าใจ เพราะการยืดเวลา 90 วัน เป็นผลกระทบอย่างมากโดยเฉพาะการกำหนดส.ส.เขตเลือกตั้ง เรื่องนี้แม่น้ำ 5 สายสามารถคุยกันได้ ตนไม่อยากให้ใช้มาตรา 44 หากพล.อ.ประยุทธ์ต้องการความเชื่อมั่นต้องทำและแก้สถานการณ์นี้ให้ได้ แต่ถ้าไม่ทำ สิ่งที่ประชาชนเขาคิดว่ามีการสมคบคิดกันก็อาจจะเป็นไปได้จริง