เริ่มโครงการวันแรก "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" สงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 146 คัน

เริ่มโครงการวันแรก "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" สงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 146 คัน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า  วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ การเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาของประชาชนเป็นไปอย่างหนาแน่นในเส้นทางสายหลัก อาทิ  ถนนมิตรภาพ , เพชรเกษม , พหลโยธิน ขณะที่เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครองและจิตอาสา ร่วมกันอำนวยความสะดวกประชาชนตามจุดตรวจและจุดบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่สถานีขนส่งหลัก ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งประจำจังหวัด  สถานีขนส่งใน กทม. หมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย ซึ่งบางแห่งยังมีประชาชนรอการเดินทาง รอขึ้นรถในวันนี้อีกจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจและดูแลความเรียบร้อยในภาพรวม ป้องปรามอาชญากรรม เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกและได้เดินทางตามกำหนด

สำหรับสถิติตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในวันแรก 11 เมษายน 2561  เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับ 3,339 ราย แยกเป็น

ในส่วนรถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 1,864 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 105 คัน  ยึดใบขับขี่ 356 ใบ และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 1,457 คน  

สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด  1,475 ครั้ง ยึดรถยนต์ 41 คัน เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้  82 ใบ ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 1,259 คน

ทั้งนี้ จากการประเมินสภาพการจราจรวันแรกของการเดินทางช่วงสงกรานต์นี้ พบว่าประชาชนใช้เส้นทางได้อย่างคล่องตัว ความคับคั่งของยานพาหนะมีเป็นช่วงๆ ในพื้นที่ผ่านชุมชนเมืองใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามแก้ปัญหาการจราจรที่ชะลอตัวหรือหยุดนิ่งเป็นเวลานานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การจราจรเลื่อนไหลไปได้อย่างเหมาะสมและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ใช้เส้นทางได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อให้การเดินทางมีความราบรื่นมากที่สุด

 

เริ่มโครงการวันแรก "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" สงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 146 คัน

 

เริ่มโครงการวันแรก "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" สงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 146 คัน

 

เริ่มโครงการวันแรก "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" สงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 146 คัน

 

 

 

ขอบคุณภาพ ทวิตเตอร์ Armypr_news