ระเบิดลงกลางดงขมิ้น !!? คำทำนาย "โหรฟองสนาน" เขย่าสู่ยุคใหม่ของวงการสงฆ์...กวาดล้าง พลิกล็อคชวนตาค้าง!

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อกองปราบนำกำลังเข้าบุกค้นและจับกุมพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ  และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กระทำความผิดอาญาคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม 

นอกจากนี้ยังได้นำกำลังบุกจับพระพุทธอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธมฺมธีโร ที่วัดอ้อน้อย ตามหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ คาดเป็นกรณีกรรโชกทรัพย์1.2แสนบาท โรงแรมเอสซีปาร์ค ช่วงชุมนุม กปปส.เมื่อปี2558

ระเบิดลงกลางดงขมิ้น !!? คำทำนาย "โหรฟองสนาน" เขย่าสู่ยุคใหม่ของวงการสงฆ์...กวาดล้าง พลิกล็อคชวนตาค้าง!

 

ระเบิดลงกลางดงขมิ้น !!? คำทำนาย "โหรฟองสนาน" เขย่าสู่ยุคใหม่ของวงการสงฆ์...กวาดล้าง พลิกล็อคชวนตาค้าง!

ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. 2561 บนเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ได้โพสต์คำทำนายชะตาระบุว่าขณะนี้กรรมเก่าเรื่องศาสนาแรงมาก และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระกันหันแบบไม่ทันคาดคิด อย่างเช่นในเหตุการณ์บุกจับกุมพระผู้ใหญ่ที่กล่าวมาข้างต้น

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่223 โดยฟองสนาน จามรจันทร์
ระเบิดลงกลางดงขมิ้น-เขย่าไปสู่ยุคใหม่ของวงการสงฆ์

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์
มฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาและพระอาทิตย์(๑)ดวงเดิมดวงเมือง
พระเสาร์จร(7)เดินอยู่ในราศีธนูทับพระเสาร์ดวงเดิม(๗)กรรมเก่าแรงมาก
พระเสาร์จร(7)เดินอยู่ในราศีธนูทับพฤหัสบดีดวงเดิม(๕)กรรมเก่าเรื่องศาสนา
พฤหัสบดีจร(5)เดินถอยหลังในราศีตุลย์และจะวกกลับเดินหน้าวันที่ 17 กรกฎาคม 2561

แม้จะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าถึงการสะสมพลังของมฤตยูจรเจ้าของการปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงกะทันหันไม่ทันคาดคิด ผลัดเปลี่ยน การต้องเนรเทศ ภัยอาเพศ เหตุร้าย โชคไม่แน่นอน ฯลฯที่กำลังเดินอยู่ในราศีเมษ ทับลัคนาดวงเมืองรัตนโกสินทร์มาตั้งแต่6มีนาคม 2559 สร้างความสะเทือนไปยังองค์กร-บุคคล-โครงสร้างสำคัญในเมืองชนิดถึงรากแก้ว รวมทั้งวงการสงฆ์ที่กำลังร้อนฉ่าด้วยเรื่องเงินทอนวัด-ล้างความไม่ดีงาม ตามที่เขียนไว้ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่222 เรื่อง สะสมพลัง-เปลี่ยนแปลงในวงการสงฆ์ก็ตาม

แต่สถานการณ์สถานการณ์ระเบิดในวงการสงฆ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 24 พฤษภาคม 2561ที่ตำรวจสอบสวนกลางนำหมายศาลไปค้นวัดต่างๆคือวัดสระเกศราชวรวิหาร , วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร และวัดสามพระยาวรวิหารที่เกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด และที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐมคดีของพระพุทธอิสระรวมทั้ง วัดตราชู และวัดกุฏีทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี กรณีที่ชาวบ้านไปร้องกองปราบว่าพระพุทธรูปในวัดดังกล่าวหายไปนั้น ยังทำให้ผู้เขียนอึ้งได้ชนิดไม่คาดว่าชาตินี้จะได้เห็น

ปฏิบัตินี้การนำไปสู่การหายไปของพระชั้นผู้ใหญ่ถึงสองรูป(เนรเทศตัวเอง-ถูกเนรเทศหนึ่งในความหมายของมฤตยู) จับสึกอีกหกรวมทั้งพุทธอิสระ และที่สุดคือสมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระบัญชาปลดพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ, พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม พ้นคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เรียนได้ว่าสะเทือนไปถึงฐานรากขององค์กรสูงสุดของสงฆ์เลยทีเดียว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้และที่จะเกิดต่อไปในวงการสงฆ์เพราะยังเหลือวัดที่อยู่ในข่ายคดีเงินทอนอีกเจ็ดวัด ทำให้ต้องประเมินระดับการปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลง-กวดล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ของมฤตยูในวงการศาสนาใหม่ เพราะที่ผ่านมาคงจะประเมินผลของมฤตยูต่ำไป

และที่สำคัญมฤตยูจรนี้ยังจะคงเดินอยู่ในราศีเมษไปถึงตั้งวันที่ 8กรกฎาคม 2565 ซึ่งผู้เขียนจึงยังย้ำเหมือนเดิมว่าพอถึงวันนั้นเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และคิดไม่ออกเหมือนกันว่าวงการศาสนาจะเป็นอย่างไรเมื่อตอนนั้น

ก่อนจะไปถึงจุดนั้นผู้เขียนขออ่านดวงชะตาเมืองระยะใกล้ให้ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเค้าโครง-แนวโน้มให้กับเรื่องนี้คือ
1.มฤตยูจรที่ราศีเมษยังลอยอ้อยอิ่ง(มฤตยูเดินช้า อยู่ราศีใดจะยาวนานเจ็ดปี) สะสมพลังการเปลี่ยนแปลง-ระเบิด-กวาดล้างสิ่งเก่า-สถาปนาสิ่งใหม่-เริ่มสะสมพลังครั้งใหม่ ต่อไปเรื่อย ดังที่ได้เกิดขึ้นในวงการสงฆ์(และเมือง)มาเป็นระยะๆตั้งแต่มีนาคม 2559 และยังจะเป็นต่อไปถึง 8กรกฎาคม 2565
พร้อมกันนี้มฤตยูยังพร้อมจะเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติบุคคลสำคัญ-ผู้นำในวงการต่างๆรวมทั้งพระสงฆ์รูปสำคัญๆในเมืองชนิดพลิกล้อคชวนตาค้างทั้งคนเก่า-คนใหม่ต่อไป(มฤตยูทับพระอาทิตย์๑ดวงเดิมดวงเมืองซึ่งเป็นตัวแทนผู้นำ-คนมียศศักดิ์-ตำแหน่ง เป็นรากร่วมภัยตามคติของโหรภิญโญ พงศ์เจริญนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ จึงจะมีทั้งคนตก-ได้ตำแหน่งชวนตาค้าง)

2.ปรากฎการณ์ซ้อนเข้ามาตั้งแต่ 1ธันวาคม 2560-1มีนาคม 2563 คือกรรมเก่าในเมืองจะแรงมาก คนสำคัญ-ผู้นำในองค์กรต่างๆทำอะไรไว้กรรมจะสนองทั้งดีและร้าย (ปรากฎการณ์พระเสาร์จรทับพระเสาร์ดวงเดิมดวงเมืองตามโฉลก..เสาร์ถึงสถิตเสาร์ ปะทะกันและกันเอง โทษทุกข์แต่ปางเพรง ก็จะก่อจะเกิดมีฯลฯ)
ดังจะเห็นได้ว่าสิ่งที่พระสงฆ์ที่เป็นเป้าถูกเล่นงานทั้งก่อนหน้านี้และเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561นั้นล้วนเป็นเรื่องกรรมเก่าที่เคยทำไว้ทั้งนั้น เป็นการทำชนิดที่ย่ามใจ เพราะสถานะมั่งคง(มั่งคั่ง) มีแต่คนกราบไว้บูชาจนถูกมฤตยูไล่ล่าในที่สุด

3.ปรากฎการณ์ซ้อนเข้ามาระยะสั้นคือการเช็คบิลเรื่องเก่า ตรวจสอบ ดำเนินคดี เรื่องใหญ่ๆในวงการสงฆ์รวมทั้งกรณีเงินทอนวัด-พระที่เข้มข้นจะเป็นไปต่อไป รอบนี้เริ่มมาตั้งแต่14เมษายน 2561(พฤหัสบดีจรตัวแทนศาสนา-นักบวชเดินถอยหลังจากราศีพิจิกเข้าราศีตุลย์-ภพที่เจ็ด-ปัตนิดวงเมืองในความหมายคดีความ)

4.ตามตำราของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรแล้ว วันที่ 17 กรกฎาคม2561 เมื่อพฤหัสบดีจรวกกลับเดินหน้า จะเป็นช่วงที่จุดระเบิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้น(เกิดก่อน-หลังประมาณเจ็ดวัน) และเหตุการณ์นี้คงจะสร้างความตะลึง-ประหลาดใจในเมืองชนิดเกินคาดฝันอีกรอบ(พระมฤตยูจรที่เมษเล็งกับพฤหัสบดีจรที่ตุลย์) 
แค่พฤหัสบดีเดินถอยหลังเล็งกับมฤตยู ยังไม่จุดวกกลับ ยังเกิดเหตุใหญ่เมื่อวันที่ 24พฤษภาคม 2561ขนาดนี้ แล้วระยะวันที่ 17กรกฎาคม 2561จะขนาดไหน และสถานการณ์จริงคือเงินทอนวัดล็อตสามนี้ยังเหลืออีกตั้งเจ็ดวัดที่อยู่ในบัญชีของพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่จะตรวจสอบ

5. แต่อย่างไรก็ตามยังมีเกณฑ์ทางโหรพอให้คนไทยสบายใจคือระยะที่พฤหัสบดีวกกลับจากการเดินถอยหลังหลังนั้น จะมีปรากฎการณ์ด้านดีนำและแทรกเข้ามาก่อนคือระหว่าง 15มิถุนายน –17กรกฎาคม 2561 เป็นระยะที่ชะตาเมืองกำลังได้โชคเทวฤทธิ์หรือเทวดาให้โชคอีกรอบ (ปรากฎการณ์ที่พฤหัสบดีหัวหน้าเทวดาประจำเมืองตัวแทนศาสนาและนักบวช ตรึงกับพระอาทิตย์ดาวตัวแทนยศศักดิ์เป็นคู่มิตรใหญ่) ซึ่งรอบที่แล้วก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นหลายอย่างเช่นตลาดหุ้นทำสถิติใหม่ตลอดกาล- ไทยหลุดจากธงแดงไอเคโอ.- อียู.เปลี่ยนใจหันมาคบกับรัฐบาลทหารฯลฯ
ที่สำคัญคือถ้ามฤตยูผสมโรงกับดาวอื่นที่ให้ผลด้านบวก(กรณีนี้พฤหัสบดี-ตรึงกับพระอาทิตย์) ก็จะให้คุณอย่างล้ำเลิศชวนตะลึงตาค้างเหมือนกัน คราวนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการแต่งตั้งตำแหน่งคน-ตำแหน่งสำคัญทางพระชนิดเกินคาดคิด?

6.ส่วนระยะยาวกว่านั้นผู้เขียนเพิ่งคิดออกคือคาดว่าการจัดระเบียบวงการสงฆ์ครั้งนี้จะนำไปสู่ยุคใหม่ของวงการพระพุทธศาสนาในประเทศประเทศไทยที่จะปรากฎปลายขอบฟ้าเริ่มตั้งแต่ประมาณ 2มีนาคม 2562เป็นต้นไป(พฤหัสบดีจรร่วมกับพระเสาร์จรที่ราศีธนู-ภพที่เก้าความเชื่อศาสนาของเมือง)
อันเป็นไปพร้อมๆกันกับการที่ดวงเมืองรัตนโกสินทร์จะเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ที่สิบสามตามหลักการคิดยุคของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร อันจะกินเวลาไปยาวนานอีกยี่สิบปี

ฟองสนาน จามรจันทร์
25 พฤษภาคม 2561

 

ระเบิดลงกลางดงขมิ้น !!? คำทำนาย "โหรฟองสนาน" เขย่าสู่ยุคใหม่ของวงการสงฆ์...กวาดล้าง พลิกล็อคชวนตาค้าง!

 

 

 

 

 

 

ที่มา Fongsanan Chamornchan