ยกระดับคนไทย!! รัฐจัดหนักเพิ่มนโยบาย “ยกคนพ้นจน” แจกเงินบัตรคนจนเพิ่ม แถมใช้ 30 บาทรักษาทุกโรคฟรี (รายละเอียด)

ยกระดับคนไทย!! รัฐจัดหนักเพิ่มนโยบาย “ยกคนพ้นจน” แจกเงินบัตรคนจนเพิ่ม แถมใช้ 30 บาทรักษาทุกโรคฟรี (รายละเอียด)

วานนี้ (02/07/2561) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอนโยบายสาธารณะ “ยกคนพ้นจน” หวังแก้ปัญหาความยากจน หลังจากรัฐบาลลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน เพื่อให้ผู้ถือบัตรใช้บริการซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ บริการสาธารณะ รถไฟ รถเมล์ บขส. จากนั้นเฟส 2 มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งการฝึกอาชีพ ทักษะ เฟรนไชส์ ด้วยการจ่ายเงินเพิ่มผ่านบัตรสวัสดิการ หลังลงทะเบียนอบรมรอบ 2  หวังยกระดับครอบครัว ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งด้านการตรวจสุขภาพคนจน การเรียนภาคบังคับ จัดทำหลักสูตรสำหรับคนจน การออมสำหรับการช่วยเหลือระดับชุมชน พัฒนาอินเทอร์เน็ต สินเชื่อ จัดหาที่ดินทำกิน ดูแลคุณภาพดิน น้ำ กำหนดเงื่อนไขการพัฒนาคุณภาพควบคู่กับการช่วยเหลือด้านตัวเงิน  

ทั้งนี้ สศค.เสนอนโยบายสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 3  “ยกคนพ้นจน”  มุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 8.3 ล้านคนจากผู้ลงทะเบียน 11.4 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือคนจนอย่างยั่งยืน จึงกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม 1. หากรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินโอนจากรัฐบาลอัตราร้อยละ 20 เช่น หากนาย A มีรายได้ 15,000 บาทต่อปี ได้รับเงินจากรัฐบาล 3,000 บาท รวมเป็น 18,000 บาทต่อปี 2.ผู้มีรายได้ 30,000-40,000 บาทต่อปี ได้รับเงินโอนจากรัฐบาล 6,000 บาทต่อปี 3.รายได้ 40,000-1 แสนบาทต่อปี ได้รับเงินโอนร้อยละ 10 เช่น นาย B มีรายได้ 65,000 บาทต่อปี รับเงินโอน 3,500 บาท จะมีเงินได้รวมทังสิ้น 68,500 บาทต่อปี ส่วนผู้มีรายได้เกิน 100,000 บาทจะไม่ได้รับเงินโอน  ข้อเสนอดังกล่าวได้นำผลศึกษาจากทั้งจีน บราซิลในการช่วยเหลือปัญหาความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.


โดย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาทางวิชาการ “เทคโนโลยีทางการคลัง 2018” ว่า การช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในจำนวนเท่ากับผู้มีรายได้น้อยใช้ซื้อสินค้าและบริการแต่ไม่เกิน 7,000 บาทต่อปี เตรียมนำร่องทดลองใช้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี เพื่อคืนเงินให้ผู้ถือบัตรเป็นรายเดือน เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่าย และยังเปิดทางให้รายย่อยเติมเงินผ่านบัตรเพื่อใช้ซื้อสินค้า โดยผู้ถือบัตรไม่ต้องเก็บเอกสารหลักฐาน เพราะการรูดซื้อสินค้าผ่านเครื่อง EDC และ QRCode ของกรุงไทยมีหลักฐานการซื้อขายทุกรายการ เพื่อให้รายย่อยได้มีโอกาสใช้จ่ายซื้อสินค้าจำเป็น 
 

ด้าน นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่าในวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการรับแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ โดยประชาชนผู้มีบัตรสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้ ณ สถานที่ต่างๆ อาทิ สำนักงานเขต สาขาธนาคารออมสิน สาขาธนาคารเพื่อการเกษตรแลเสหกรณ์การเกษตร ตามที่อยู่ของผู้มีบัตรที่แจ้งไว้เมื่อครั้งลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 โดยเอกสารที่จะต้องจัดเตรียมมาคือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้

ทั้งนี้ผู้ที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมในโครงการที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรฯอีกเดือนละ 100 บาท เป็น 300 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทจะได้รับเงินเพิ่มอีก 200 บาทเป็น 500 บาทต่อเดือน ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2561 โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว โดยผู้มาลงทะเบียนต้องเก็บหางตั๋วในการลงทะเบียนและมาเข้ารับการอบรมตามวันและเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้รองโฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวอีกว่ากลุ่มเป้าหมายผู้ที่มีบัตรสวัสดิการในวัยแรงงานอยู่ที่ 5.3 ล้านคน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถยกระดับรายได้และสร้างอาชีพให้กับประชาชนกว่า 4 ล้านคน พร้อมกันนี้ยังมีมาตรการจูงใจให้กับเอกชนผู้จ้างงานประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการโดยการนำค่าใช้จ่ายในการจ้างงานมาลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าอีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์