- 05 ก.ย. 2561
รวยกว่า ทำไมต้องแบล็คเมล์ พี่สาว 17 โต้กลับ "ฤาษีตาไฟ" จะมีอะไรมาให้...ยอมแลกหน้าที่การงาน!
จากประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจอยู่ ณ ขณะนี้กับการที่นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ หรือ ร่างทรงปู่ฤาษีตาไฟ ถูกแจ้งความกล่าวหาว่า ได้ทำการข่มขืนหญิงสาววัย 17 ปี ที่ จ.ศรีสะเกษ หลังจากทำการเปิดรีสอร์ตเพื่อทำพิธีถอนคุณไสย เมื่อช่วงวันที่ 26-27 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 28 ส.ค. ครอบครัวของสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมแจ้งว่าลูกถูกนายสุรสิทธิ์ข่มขืน ก่อนที่ฝั่งของ นายสุรสิทธิ์ จึงได้เข้ามอบตัวต่อสู้คดี พร้อมทำการปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว เมื่อ วันที่ 4 ก.ย. 61 น.ส.เอ พี่สาวเด็ก 17 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยถึงเหตุผลที่น้องสาวมีสัมพันธ์กับนายสุรสิทธิ์ โดยน้องสาวเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ตนฟัง ตอนเจ้าหน้าที่สอบปากคำ ซึ่งปู่ฤๅษีอ้างว่าน้องสาวถูกแฟนเก่าทำของใส่ ต้องถอนของออกทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่รอด จะต้องตาย จนน้องสาวกลัวและต้องยอมมีอะไรกันไปถึง 4 ครั้ง ตนเองเชื่อว่าหากครอบครัวไม่มาแจ้งความ ก็จะต้องถูกฤๅษีนัดเจอ และขู่บังคับให้มีอะไรกันอีก
ขณะเดียวกันระหว่างอยู่ในห้องของรีสอร์ตกันเพียงลำพัง ฤๅษีบอกกับน้องสาวตนว่าไม่ต้องกลัว คนที่เด็กกว่านี้ยังเคยทำพิธีมาแล้ว โดยตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ถึงฤๅษีจะพิการแต่หัวเข่ายังใช้งานได้ และแขนก็ยังสามารถยันพื้นได้ จึงต้องสามารถมีอะไรกับน้องสาวตนได้ โดยสาเหตุที่น้องสาวยอมมีอะไรด้วยเพราะกลัว เนื่องจากฤๅษีขู่ว่าหากเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แม้กระทั่งพ่อแม่ก็ห้ามบอกเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพ่อแม่และคนในครอบครัวจะมีอันเป็นไป ครอบครัวจะไม่มีความสุข ชีวิตพัง ที่สำคัญหลังจากมีอะไรกันแล้ว ฤๅษียังบอกน้องสาวอีกว่า ถึงไปบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเขาเป็นคนพิการ รวมถึงหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอก็ไม่มีการบันทึกเอาไว้ ไม่สามรถเอาผิดได้
.
ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ในเช้าวันรุ่งขึ้น น้องสาวตนไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นายทวีทราบ เนื่องจากกลัวว่าครอบครัวจะเป็นอันตราย เพราะฤๅษีพูดจาข่มขู่เอาไว้จึงไม่กล้าบอกใคร โดยหลังจากตนเห็นน้องสาวกลับมาที่บ้าน พบว่ามีอาการผิดปกติจากที่เคยเป็นคนร่าเริง น้องกลับไม่กินข้าว หน้าบวม ตาบวมเพราะร้องไห้ เมื่อตนขอมานอนด้วยจึงได้เค้นถามว่าเป็นอะไร น้องสาวตอบว่า บอกไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพ่อแม่และครอบครัวจะตกอยู่ในอันตราย
สำหรับการนำเรื่องราวทั้งหมดมาเปิดเผย ครอบครัวตนไม่ได้ต้องการขู่แบล็กเมล์เพื่อหวังเอาเงินจากฤๅษี และไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนอะไร รวมทั้งยังมีฐานะดีกว่าปู่ฤๅษี จึงไม่จำเป็นจะต้องไปแบล็กเมล์ เขามีอะไรให้เรา ที่ออกมาพูดครอบครัวก็เสียหาย เสียชื่อเสียง รวมถึงตนเองก็ทำงานราชการมีหน้าตาทางสังคม
.
คลิปเต็ม
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34