- 07 ก.ย. 2561
ญาติเผยนาทีเศร้าไฮโซสาวโทรหาสายสุดท้ายเอ่ยคำพูดก่อนวางสาย
จากกรณีเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุมีผู้ติดอยู่ในรถกระบะ จอดอยู่อุโมงค์ลอดทางรถไฟ บนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เลยสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์บ้านทับช้าง จึงรีบออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอุโมงค์ของหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง สร้างลอดทางรถไฟยาว 200 ม. เพื่อสะดวกต่อการเข้า-ออก หมู่บ้าน
จากการตรวจสอบเบื้อต้น ทราบว่า ถนนทางเข้าหมู่บ้านแห่งนี้ถ้าจะเลี่ยงเส้นที่จะออกถนนอ่อนนุข-ลาดกระบัง สามารถขับออกมาทางถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ (ทล.7) แต่ต้องลงอุโมงค์ลอดทางรถไฟเสียก่อน ร.ต.ท.ธนพล เฉลิมเพิ่มพล พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ และหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถยนต์กระบะ จมอยู่ภายในอุโมงค์น้ำลึกประมาณ 2.5 เมตร ทราบชื่อผู้เสียขีวิตต่อมาคือ น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะเดียวกัน น.ส.ภานุมาศ ขับรถลงอุโมงค์เพื่อกลับเข้าบ้านพัก แต่ขณะที่ลุยน้ำในอุโมงค์ รถยนต์เกิดดับ ญาติผู้เสียชีวิตได้เล่าให้ฟังว่า น.ส.ภานุมาศ ได้โทรศัพท์กลับไปที่บ้านเพื่อเรียกคนมาช่วย แต่ระน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ น.ส.ภานุมาศ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น จมน้ำเสียชีวิตภายในรถ
นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ได้เผยว่าที่เกิดเหตุอุโมงค์ลอดทางรถไฟของหมู่บ้านหรูที่ขออนุญาตการรถไฟสร้างขึ้น โดยได้ติดตั้งระบบสูบน้ำเพราะมักเกิดน้ำท่วมอุโมงค์ในช่วงหน้าฝน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาท่อส่งน้ำแตก หมู่บ้านจึงปิดเครื่องสูบน้ำ เป็นจังหวะที่ผู้เสียชีวิตได้ขับรถลุยน้ำลงอุโมงค์ แต่รถยนต์ที่ขับมานั้นเกิดดับกระทันหัน จึงโทรแจ้งครอบครัวให้ออกมาช่วย ซึ่งขณะนั้นน้ำท่วมประมาณ 1 เมตร แต่อยู่ๆน้ำก็ทะลักเข้าท่วมอุโมงค์จนเต็ม ทำให้ผู็เสียชีวิตออกมาจากรถไม่ทัน ขณะนี้เขตได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำออกแล้ว เพื่อนำรถกระบะออกมา ส่วนเรื่องคดีความเบื้องต้นจนท.ตร.สน.ประเวศ ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริงต่อไป
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ว่าขณะที่ระหว่างการกู้รถกระบะนั้น ระดับน้ำได้ลดลงมากกว่าครึ่งคัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตกอยู่นอกตัวรถ ญาติได้ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์ของผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตมีการโทรบอกญาติก่อนหน้าจะเสียชีวิตว่า "หนีไม่ทันแล้ว"
โดยจากการตรวจสอบพบว่าครั้งสุดท้ายที่ญาติคุยกับผู้ตาย ระดับสูงเพียงครึ่งล้อรถ อาจเพราะความตกใจจึงทำให้ไม่กล้าออกจากรถ