- 18 ก.ย. 2561
ไปชมคลิปชัดๆ ว่า ลักลอบขนยาบ้ากันมาอย่างไร ยาบ้าลอตยักษ์ 10 ล้านเม็ด และ เฮโรอีนบริสุทธิ์ 35 กก.
จากกรณี ที่มีการจับกุมยาบ้าล็อตมหึมา เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. , บก.ขส.บช.ปส. , เจ้าพนักงานตำรวจ ด่านตรวจพยุหะคีรี บก.ปส.3 บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติด นายประวิทย์ แซ่ม้า อายุ 67 ปี, นางยิ้ง แซ่ม้า อายุ 54 ปี, นางนภา กิจพาณิชย์สกุล อายุ 33 ปี และนางกื๋อ แซ่ม้า อายุ 49 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดตาก ถูกจับกุมได้บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองสุโขทัย-ตาก ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย ต่อเนื่องริมถนนสายสุโขทัย-คีรีมาศ หน้าศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงโคนม หมู่ 8 ต.โตนด อ.คีรีมาศ ต.ทุ่งหลวง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้า 10 ล้านเม็ด เฮโรอีนแท่ง น้ำหนัก 35 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท
โดยความคืบหน้าในวันนี้ 18 ก.ย. 61 ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดของกลางเป็นยาบ้า 10 ล้านเม็ด และยาเสพติดอีกหลายชนิด มูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาท พร้อมขยายผล เพื่อเร่งจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆต่อไป
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ทั้งหมด 3 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 13 คน ยึดของกลางเป็นยาบ้า 10,000,000 เม็ด เฮโรอีน 37 กิโลกรัม ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม และกัญชาอีก 917 กิโลกรัม รวมมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านบาท
โดยครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้ 4 คน คือ นายประวิทย์ แซ่ม้า นางยิ้ง แซ่ม้า นางนภา กิจพาณิชย์สกุล และนางกื๋อ แซ่ม้า ทั้งสี่คนเป็นชาวจังหวัดตาก โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่ริมถนนสายเลี่ยงเมืองสุโขทัย - ตาก ที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 จับกุมได้ในวันเดียวกัน ที่ริมถนนสายสุโขทัย-คีรีมาศ หน้าศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงโคนม จังหวัดสุโขทัย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามและพบพฤติการณ์ที่น่าสงสัย โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้รถวิ่งไปที่จังหวัดเชียงรายแล้วใช้เส้นทางหลบด่านลัดเลาะ จนมาถึงด่านพยุหะคีรี เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุญาตตรวจค้น ผู้ต้องให้การเป็นที่น่าสงสัย และเมื่อนำรถยนต์มาเอ็กซเรย์ พบยาบ้าจำนวน 25 กระสอบ กระสอบละ 400,000 เม็ด นับรวมได้ 10 ล้านเม็ด โดยใช้มูลไก่กลบกระสอบเอาไว้เพื่อบังตาเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดถูกจับกุมดำเนินคดี เบื้องต้นสารภาพ ได้ว่าจ้างมาจากเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้านนำยาเสพติดไปส่งให้เอเยนรายใหญ่ในภาคกลาง ได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท
.
นอกจากนั้นตำรวจยังได้เร่งขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้อีก 9 คน รวมสองคดี ซึ่งผู้ต้องหาเป็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ส่วนวันนี้พลตำรวจโทสมหมาย ได้บอกว่า ตอนนี้ได้ร่วมงานกับตำรวจต่างประเทศ เพื่อกวาดล้างยาเสพติด ที่จะหลั่งเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย ซึ่งยังมีนายทุนกลุ่มเดิมคอยบงการ ซึ่งหลังจากนี้อีก 2 สัปดาห์ ก่อนพลตำรวจโทสมหมายจะเกษียณอายุราชการ จะมีผลงานออกมาอีก จะจับกุมผู้ต้องหาได้อีกจำนวนมาก
โดยพฤติการณ์ของคนร้ายที่พบในส่วนใหญ่ ยังคงใช้รูปแบบเดิมๆ คือ การซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์ด้วยการเจาะช่องลับ เส้นทางที่ใช้มากที่สุดคือ ภาคเหนือ และภาคอีสาน ส่วนสถิติของปี 2561 ณ ขณะนี้ มีการจับกุมคดียาเสพติดได้แล้ว 2,018 คดี รวมมูลค่าของกลาง 1 หมื่น 2 พัน 2 ร้อยล้านบาท
ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะทำงานแบบบูรณาการกับทุกหน่วยงานเพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้สิ้นซากต่อไป และนี่คือบรรยากาศล่าสุดที่เกิดขึ้น อนุศักดิ์ ภูมิเทศ รายงานสดมาจาก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
ขอบคุณ
รถตระเวนข่าว