- 20 ก.ย. 2561
หมอเด็กอธิบายข้อเท็จจริงจากคลิปดังเด็กหญิงคนหนึ่งคุยคนเดียวจนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้ แท้จริงเป็นจินตนาการของช่วงวัย แนะทางแก้ให้ผู้ปกครอง
จากกรณีคลิปหลอนที่กำลังเป็นที่ฮือฮายกใหญ่บนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปไปรับลูกสาวที่โรงเรียนแต่ลูกสาวของเธอกลับคุยเล่นอยู่คนเดียว เธอสงสัยจึงลองดูก็พบว่าลูกคุยกับอากาศ และเมื่อลองถามดูลูกก็ตอบว่าคุยกับน้องทำเอาเธอหลอนหนักและบอกให้ลูกช่วยบอกน้องว่าอย่าตามกลับมา
ในเฟซบุ๊ก ครูจุ๊ ทักษพร โพสต์ข้อความพร้อมคลิประบุว่า เมื่อติดฝนกลับบ้าน...มืดค่ำ..อิ่มเอมคุยกับใคร../เด็กที่ไหนใส่รองเท้าสีชมพู ไม่มีสักคน...หลอนนนน##ชั้น๒หน้าห้องคอมฯ
โดยเนื้อหาในคลิปประมาณว่าแม่ไปรับลูกหน้าห้องคอมฯ ก็ถามว่าคุยกับใครน้องก็บอกว่าคุยกับน้องใส่รองเท้าสีชมพู แต่พอมองไปก็ไม่มีใคร แถมตอนกลับลงจากบันไดลูกสาวยังหันไปคุยกับอากาศแบบเป็นเรื่องเป็นราว บอกว่าน้องจะตามไปด้วย
ภายหลังโพสต์คลิปก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเด็กอาจเห็นใครบางคน เด็กไม่โกหก แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณในการชม
เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังคลิปถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำชาวเน็ตถึงกับหลอนและแชร์ส่งต่อคลิปนี้ไปเป็นจำนวนมากและตั้งประเด็นถกเถียงกันครั้งใหญ่ ล่าสุดทางรายการทุบโต๊ะข่าวได้ไปสัมภาษณ์กุมารแพทย์รายหนึ่งคือ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี หรือ หมอเดว กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ซึ่งคุณหมอเดลเองหลังได้ดูคลิปก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ระบุว่าเป็นธรรมชาติของเด็กที่จะมีโลกจินตนาการแต่ผู้ใหญ่กลับนำไปผูกโยงกับเรื่องลี้ลับเอง
หมอเดวกล่าวว่า ด้วยธรรมชาติของเด็กเล็กหรือเด็กในวัยอนุบาล เขาจะมีจินตนาการเล่นบทบาทสมมติ เช่น สมมติว่าตัวเองเป็นหมอหรืออะไรต่าง ๆ เพราะหากผู้ปกครองเข้าใจจิตวิทยาพัฒนาการก็จะไม่ได้กดดันเด็ก และต้องให้ความใส่ใจเรื่องนี้ เนื่องจากเด็กหลายคนบางครั้งมีความตึงเครียด จึงอยากได้รับความรักและความใส่ใจ การมอบความรักและความใส่ใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าการดุ การใช้เสียงดัง หรือใช้วิธีลงโทษ ซึ่งผู้ใหญ่บางคนอาจมโนไปด้วยว่าเป็นเรื่องของผี ทั้งที่ความจริงนั้นไม่ใช่
ส่วนเรื่องที่เมื่อแม่สั่งให้หันไปบอกเพื่อนว่าอย่าตามมา แล้วน้องก็ทำตามนั้นเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของเด็กเอง ต้องการที่จะปัดให้ตัวเองปลอดภัย แล้วก็จำเป็นที่จะต้องทำไปตามที่แม่บอก เพราะถ้าไม่ทำตามก็อาจจะโดนลงโทษได้ เขาก็เลยปกป้องตนเองด้วยการที่แม่บอกมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น
หมอเดวยังบอกอีกว่าแต่การพูดคุยในโลกแห่งจินตนาการแบบนี้เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน สิ่งที่ผู้ใหญ่จะต้องให้ความใส่ใจเพิ่มขึ้นมาคือ เด็กมีความเครียดอะไรด้วยหรือไม่ โดยหากมีความเครียดอยู่หรืออยากได้รับความสนใจ แล้วใช้วิธีการนี้ ก็จะทำให้ผู้ใหญ่กลับมาสนใจมากขึ้น ต่อไปเด็กก็อาจจะใช้วิธีการเดิมให้ผู้ใหญ่มาสนใจได้
คำแนะนำหากว่าเจอแบบนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือการกอดให้ความรัก ความอบอุ่น และรับฟังว่ามีอะไรบ้างที่เขาไม่สบายใจ เด็กในวัยนี้ไม่ใช่เป็นเด็กที่จะมีสัมผัสที่หก ในขณะเดียวกันต้องมองกลับไปว่า ผู้ปกครองเล่านิทาน ให้เด็กดูหนังผี หรืออะไรที่น่ากลัวหรือไม่ ซึ่งทำให้เด็กนำสิ่งนั้นไปอยู่ในโลกเสมือน ไม่ใช่เรื่องจริง
คลิป...
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว