ซวยซ้อน! "สมรักษ์ คำสิงห์" ล้มละลาย ต้องออกจากราชการไหม?

ซวยซ้อน! "สมรักษ์ คำสิงห์" ล้มละลาย ต้องออกจากราชการไหม?

จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศวันนี้ เรื่อง ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นางเสาวนีย์ คำสิงห์ จำเลยที่ 1, นายสมรักษ์ คำสิงห์ จำเลยที่ 2 เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483  โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ มหานคร จำกัด ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย  มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของจำเลย

 

 

ซวยซ้อน! "สมรักษ์ คำสิงห์" ล้มละลาย ต้องออกจากราชการไหม?


โดยอย่างที่เราทราบกันว่าหลังจากที่  "สมรักษ์ คำสิงห์" ประสบความสำเร็จได้ทั้งแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ เขาได้เข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่บาร์เซโลนา ในปี พ.ศ. 2535 สมรักษ์เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการเป็นนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียว ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2537 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกือบจะถูกตัดสิทธิ์ เพราะตรวจสมรรถภาพร่างกายไม่ผ่านในครั้งแรก ต่อมา พ.ศ. 2538 สมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือก ไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้เป็นผลสำเร็จอีกครั้ง สมรักษ์โด่งดังถึงที่สุดในปี พ.ศ. 2539 เมื่อสมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5 เส้นทางสู่ทองประวัติศาสตร์เริ่มจากรอบแรกเอาชนะแดเนี่ยล เซต้า นักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะฟิลิป เอ็นดู จากแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามหรือรอบก่อนรองชนะ รามาส พาเลียนี่ จากรัสเซีย 13-4 และรอบตัดเชือก สมรักษ์ชนะ พาโบล ชาคอน จากอาร์เจนตินาไปได้ 20-8 และท้ายที่สุดเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรียไปได้ ซึ่งก่อนการชกในรอบชิงชนะเลิศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานกระเช้าผลไม้มายังสมรักษ์ และทีมงานพร้อมทั้งทรงอวยพรให้สมรักษ์ได้รับชัยชนะด้วย โดยการแข่งขันโอลิมปิคในครั้งนี้ สมรักษ์ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Kamsing Somluck" โดยเจตนาให้มีนัยทางโชคด้วย ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนี้ การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท มาด้วย เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ และทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์ เป็น เรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็น จ่าเอก (จ.อ.)

 

ซวยซ้อน! "สมรักษ์ คำสิงห์" ล้มละลาย ต้องออกจากราชการไหม?

 


สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น เรื่องที่ชาวเน็ตสงสัยจนต้องสร้างกระทู้ขึ้นมาถึงความสงสัยว่า สมรักษ์ คำสิงห์ จะถูกไล่ออกจากราชการไหม ? โดยเพจทนายคู่ใจ เคยยกตัวอย่างคล้ายๆ กรณีนักมวยขวัญใจชาวไทยด้วยว่า ก่อนอื่นขออธิบายถึงการโดนฟ้องล้มละลายก่อนว่า ต้องเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ กล่าวคือ มีหนี้เกิน 1 ล้านบาทและไม่มีกำลังที่จะชำระคืนนั่นเอง ( พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.9 )

เมื่อศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายก็จะโดนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดูแลจัดการทรัพย์สิน ตัวเองจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินไม่ได้เลย ก็โดนจำกัดสิทธิหลายๆอย่างนั่นแหละ

แล้วก็เป็นดั่งที่ชายหนุ่มข้าราชการกังวลจริงๆนั่นแหละครับ เพราะการที่เป็นบุคคลล้มละลายนั้น เป็นลักษณะต้องห้ามที่จะรับราชการ (ตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา 36 ข.(6) )นั่นหมายจะเป็นข้าราชการต่อไปอีกไม่ได้ อนาคตนี่มืดมนกันเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะไม่ซวยเสมอไป เพราะการที่จะต้องออกจากราชการนั้นผู้บังคับบัญชาต้องมีคำสั่งให้ออกจากราชการหากไม่มีการสั่งออกจากราชการ แล้วผู้ล้มละลายปลดจากการเป็นผู้ล้มละลายในระยะเวลา 3 ปี ก็จะมาสั่งย้อนหลังไม่ได้นะ

 

ซวยซ้อน! "สมรักษ์ คำสิงห์" ล้มละลาย ต้องออกจากราชการไหม?