- 29 ก.ย. 2561
หรือเป็นกรรมตามทัน ผัวแทงเมียดับแล้วเอาเงินยัดปาก เหตุ โดนอายัดบัตร ATM กดเงินซื้อเหล้าไม่ได้ ล่าสุดเจ้าตัวอาการทรุดหนัก
จากกรณี ผัวอายุ 73 ปี แทงเมียดับคาที่ เมียอายัดบัตร ATM กดเงินมาซื้อเหล้าไม่ได้ ร.ต.อ.เนติรักษ์ แสนบุดดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี ได้รับแจ้งเหตุสามีใช้มีดแทงภรรยาเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 9 บ้านทับปลา ต.หนองสรวง อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พบร่างผู้เสียชีวิตคือนางสำเนียง ไลยวรรณ อายุ 66 ปี นอนจมกองเลือด มีรอยถูกแทงด้วยของมีคม อยู่บริเวณกระท่อมหลังบ้าน แพทย์ได้ตรวจร่างกายพบกว่าพบรอยแทงตามร่างกายผู้เสียชีวิต จำนวน 5 จุด มีเลือดไหลออกตามร่างกาย จากการสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสวัสดิ์ ราชชมภู อายุ 73 ปี เป็นสามีผู้เสียชีวิตได้ลงมือก่อเหตุโดยใช้จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีดำแดง ทะเบียน ขง 239 กาฬสินธุ์ ขับรถมาจากบ้านคำแคนมาตามหาภรรยาที่บ้านลูกสาวก่อนลากภรรยาที่นอนพักผ่อนห้องนอนภายในบ้านลากมาที่กระท่อมหลังบ้านใช้มีดปลายแหลมขนาด 30 ซม. ก่อเหตุโดยแทงไปที่ร่างกายและหลบหนีไปจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุ พบตัวผู้ก่อเหตุที่บ้านพักที่บ้านคำแคน ได้ทำการจับกุมตัวส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 กันยายน 2561) ที่ สภ.หนองกุงศรี พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี ได้นำตัวนายสวัสดิ์ ฯ ผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำพร้อมกับหลานสาว และทนาย ระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหาเกิดอาการซักเกรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบนำตัวผู้ต้องหาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลหนองกุงศรี เนื่องจากผู้ต้องหามีประวัติเป็นโรคความดันสูง ประกอบกับเป็นไข้สูงและโรคหอบหืด ได้นอนพักที่ห้องฉุกเฉินประมาณ 2 ชม. แพทย์จึงได้สั่งผู้ต้องหาให้นอนโรงพยาบาล ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าตำรวจ สภ.หนองกุงศรี
ด้าน พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับผู้ต้องหาและได้ส่งหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ให้เหตุผลว่าไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังได้เนื่องจากผู้ต้องหาป่วยกระทันหันเกิดอาการชักเกรงมีไข้สูงและหอบหืด โดยผู้ต้องการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลหนองกุงศรี จึงขอให้ศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาอยู่ในการควบคุมขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันจันทร์นี้
ขอบคุณเนื้อหา และภาพ จาก "ข่าว หนองกุงศรี : Nongkungsri News"