- 01 ต.ค. 2561
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ประกาศความคืบหน้าล่าสุดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มอินโดนีเซีย เร่งอพยพคนไทยในพื้นที่เสี่ยงมายังที่ปลอดภัย
จากกรณีเอเอฟพีรายงานจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แม็กนิจูด มีจุดศูนย์กลางบน เกาะสุลาเวสี ทางตอนกลางของ อินโดนีเซีย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แรงสั่นสะเทือนก่อคลื่นสึนามิซัดเข้าชายฝั่งเมืองปาลู ห่างจากจุดศูนย์กลาง 80 ก.ม. หลังบ้านเรือนและอาคารหลายหลังพังถล่มลงมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2561 บนเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, Jakarta สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ได้โพสต์ประกาศเกี่ยวกับเหตุระทึกดังกล่าวระบุความว่า
ตามที่เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2561 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ และ 7.5 ริกเตอร์ ห่างจากชายฝั่งเมืองดองกาลา (Donggala) บนเกาะสุลาเวสี (Sulawesi) ประเทศอินโดนีเซีย และหลายอาฟเตอร์ช็อคตามมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ล่าสุด ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศยกเลิกการเตือนภัยคลื่นสึนามิแล้ว
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอให้ชาวไทยที่ประสงค์เดินทางในพื้นที่ใช้ความระมัดระวัง โดยตรวจสอบและติดตามข่าวสารจากทางการอินโดนีเซียอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานทูตฯ +62 811 186253 และหมายเลขฉุกเฉินของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ +62 813 37316669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
(Photo by MUHAMMAD RIFKI / AFP)
(Photo by MUHAMMAD RIFKI / AFP)
ต่อมาบนเฟซบุ๊กของทางสถานเอกอัครราชทูตฯได้รายงานวันที่ 30 ก.ย. 2561 ระบุ
Update สถานการณ์แผ่นดินไหวเมืองปาลู เกาะสุลาเวสี ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 เวลา 17.30 น.
1. โฆษกหน่วยงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย (National Disaster Management Agency : BNPB) แจ้งยอดผู้เสียชีวิตจำนวน 832 ราย ในจำนวนนี้จากเมืองปาลู 821 ราย และจากเมืองดองกาลา 11 ราย โดยหน่วยงานฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 560 พันล้านรูเปียห์สำหรับการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน
2. ล่าสุด นักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทยจำนวน 15 คน เพิ่งเดินทางถึงท่าอากาศยาน Mutiara Sis Al Jufri เมืองปาลูแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินทางออกจากเมืองปาลูได้ในวันพรุ่งนี้ (1 ตุลาคม)
3. ผู้ช่วยทูตทหารสามเหล่าทัพจะเดินทางเข้าพื้นที่โดยเครื่องบินทหาร C-130 จากเมืองมากัสซาร์ในวันพรุ่งนี้ (1 ตุลาคม)
และเมื่อเวลา 00.59 น. วันที่ 1 ต.ค. 2561 ได้อัพเดตสถานการณ์อีกครั้งระบุ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนสถานะล่าสุดการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยที่ติดค้างที่เมืองปาลู เกาะสุลาเวสีจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ดังนี้
1. เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 30 กันยายน 2561 นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้เดินทางถึงเมืองมากัสซาร์ เกาะสุลาเวสี (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่ากรุงจาการ์ตา/กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) โดยได้ประชุมร่วมกับผู้ช่วยทูตทหาร 3 เหล่าทัพ ความว่า
1.1 ช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกจะร่วมเดินทางกับทางการอินโดนีเซียไปเมืองปาลูโดยเครื่องบินทหาร C130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียเพื่อนำนักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทย 15 คนที่ท่าอากาศยานปาลูมายังเมืองมากัสซาร์ โดยคาดว่าจะเดินทางถึงเมืองมากัสซาร์ภายในช่วงเที่ยง
1.2 สามารถติดต่อกับนักศึกษาที่เหลือจำนวน 17 คนจากมหาวิทยาลัย IAIN ได้แล้ว จึงได้ประสานกับผู้แทนบริษัท CP อินโดนีเซียที่กำลังเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองมากัสซาร์ไปเมืองปาลู เพื่อไปรับนักศึกษากลุ่มดังกล่าวที่จุดนัดหมายไปยังท่าอากาศยานเมืองปาลูเพื่อเดินทางต่อมายังเมืองมากัสซาร์โดย C130 อินโดนีเซียในเที่ยวบินต่อไป
2. เอกอัครราชทูตฯ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ และกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ (บาหลี) จะเดินทางไปอำนวยความสะดวกและดูแลนักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทยชุดแรกจำนวน 15 คนที่จะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานเมืองมากัสซาร์ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยได้จัดเตรียมน้ำดื่มและอาหารให้กับนักศึกษาและคนไทยกลุ่มดังกล่าวไว้ด้วย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้สอบถามถึงความประสงค์ของนักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทยว่าต้องการจะพำนักที่เมืองมากัสซาร์ เดินทางต่อไปจาการ์ตา หรือเดินทางกลับไทย เพื่อดำเนินการจัดหาที่พัก และบัตรโดยสารเครื่องบินให้ต่อไป
(AP Photo/Tatan Syuflana)
ล่าสุดทางสถานเอกอัครราชทูตประกาศความคืบหน้าอีกครั้งว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอเรียนสถานะล่าสุดการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยที่ติดค้างที่เมืองปาลู เกาะสุลาเวสีจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว/สึนามิ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ดังนี้
1. วันนี้ (1 ตุลาคม 2561) เวลา 14.30 น. นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ และกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ (บาหลี) ได้ไปรับนักศึกษาไทย 26 คน นักธุรกิจไทย 1 คน และพนักงานบริษัทคนไทย 3 คน รวม 30 คน ที่ติดค้างที่เมืองปาลูจากเหตุแผ่นดินไหว/สึนามิ ที่ท่าอากาศยานเมืองมากัสซาร์ ซึ่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกได้เดินทางไปประสานรับมาพร้อมกับคนอินโดนีเซียบนเครื่องบินอพยพ C-130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
2. นักศึกษาและคนไทยทุกคนต่างดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือจนสามารถเดินทางออกมาจากพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว และมีกำลังใจดี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเตรียมรถบัสนำไปรับประทานอาหารและจัดเตรียมที่พักให้ ทั้งนี้ มีนักศึกษาไทย 2 คนที่ประสงค์พำนักต่อกับเพื่อนสนิทชาวอินโดนีเซียที่เมืองปาลู
3. เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารนักศึกษาและคนไทยทั้ง 30 คน และได้สอบถามความประสงค์ของนักศึกษาและคนไทยว่า ต้องการจะพำนักที่เมืองมากัสซาร์ เดินทางไปพำนักที่กรุงจาการ์ตา หรือเดินทางกลับประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่พัก/บัตรโดยสารเครื่องบิน
4. เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณทางการอินโดนีเซีย ทหารอากาศอินโดนีเซีย และผู้ช่วยทูตทหาร 3 เหล่าทัพ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ และบริษัท CP อินโดนีเซีย ที่ได้ประสานร่วมมืออย่างดียิ่ง ทำให้การช่วยเหลืออพยพนักศึกษาและคนไทยในครั้งนี้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณ Royal Thai Embassy, Jakarta