เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

เทศกาลกินเจ คือ การถือศีลอย่างญวนและจีนที่ไม่กินของสดคาว แต่บริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสม ซึ่งมาจากรากศัพท์คำภาษาจีนที่ว่า "เจี๊ยะฉ่าย" หมายถึง การกินอาหารผัก อาหารที่มาจากพืชผักธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ และงดเว้นน้ำนมสด นมข้นด้วย เพราะถือว่าเป็นของสดของคาว 
 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

 

โดยการรักษาศีล 8 ที่จะไม่รับประทานอาหารหลังเที่ยงวันไปแล้ว แต่สำหรับพุทธนิกายมหายานนั้น การรักษาอุโบสถศีลจะรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วย เราจึงนิยมเรียกการไม่กินเนื้อสัตว์รวมไปกับการกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ดังนั้นความหมายของคนกินเจ ไม่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ 
 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

 

เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลที่ใครหลายๆคนรู้จักกันดี ซึ่งหลายคนกินเจมาหลายปี บางคนพึ่งเริ่มในปีนี้ แต่ไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนหรือหลังก็ควรระวัง การกินเจที่ผิด เพราะหากทานไม่ถูกวิธี อาจเสี่ยงเป็นโรคร้ายไม่รู้ตัวได้ ต้องระวังดังต่อไปนี้

1. ทานอาหารหมักดอง
สารพัดผักดองต่างๆ ถูกหยิบมาเปิดทานพร้อมข้าวต้มในช่วงเทศกาลเจกันอยู่บ่อยๆ เพราะหาซื้อได้ง่าย เก็บรักษาได้ง่าย แต่อาหารหมักดองเหล่านี้ มีโซเดียมสูงมาก หากทานบ่อยๆ จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคไต และความดันโลหิตสูงได้

 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

 

 2. อาหารรสหวานจัด เค็มจัด
นอกจากอาหารเค็มๆ จากอาหารหมักดองแล้ว ยังมีอาหารเจอีกหลายอย่างที่ปรุงรสมาค่อนข้างจัดจ้าน จัดจ้านในที่นี้ไม่ได้หมายถึงรสเผ็ด หมายถึงรสหวานจัด และเค็มจัดนั่นเอง ผู้ประกอบการอาจปรุงรสหวานเค็มเพื่อที่จะยืดอายุอาหารให้ขายได้ไปหลายวัน หรืออาจจะเป็นอาหารสไตล์จีนที่นิยมรับประทานกันในรสชาตินั้นๆ อยู่แล้ว เช่น กาน่าฉ่าย หนำเลี๊ยบ ทานอาหารรสหวานจัดเค็มจัดมากๆ ก็เสี่ยงโรคไต และความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน
 

3. อาหารไขมันสูง
หากจะดูกันดีๆ แล้ว อาหารเจที่ขายตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นผัดผัก กาน่าฉ่าย แกงต่างๆ อาจพบว่ามีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง เพราะผู้ประกอบการอาจปรุงอาหารในปริมาณมากๆ และใช่น้ำมันค่อนข้างมากตามไปด้วย อาหารไขมันสูงนอกจากจะเสี่ยงต่อน้ำหนักตัวที่อาจพุ่งขึ้นสูงจนน่าตกใจได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด หรือไขมันพอกตับได้ ดังนั้นไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันสูงติดต่อกันนานๆ เลี่ยงได้เลี่ยงเลย

 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

 

4. อาหารที่ไร้ผัก และเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต
หลายต่อหลายมื้ออาหารเจมีปริมาณผักค่อนข้างน้อย เพราะผักผลไม้ราคาสูงขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงเทศกาลเจ อาหารที่เราพบเห็นได้จึงมีส่วนประกอบของแป้งค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นแป้งที่มาจากลูกชิ้นจริงๆ หรือมาจากแป้งที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ อย่างทอดมันเจ ปลาเค็มเจ หมูเจ ไก่เจ กุ้งเจ เป็นต้น ดังนั้นคุณอาจกำลังทานคาร์โบไฮเดรตมากกว่าผักผลไม้ และเสี่ยงต่อโรคอ้วน และระบบขับถ่ายที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่ายขึ้น

5. ทานอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ
ใครที่ชอบทานอาหารเจอยู่ไม่เกิน 2 เมนูสลับกันไปเรื่อยๆ ระวังจะได้สารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีนที่หากไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ ช่วงเทศกาลเจหลายคนจึงอาจขาดสารอาหารจำพวกโปรตีนได้ ยิ่งถ้าเมนูนั้นมีแต่แป้ง กับไขมันแล้วด้วย โอกาสเสี่ยงโรคต่างๆ ก็สูงตาม เพราะฉะนั้นพยายามเลือกหาเมนูอาหารเจที่หลากหลาย อย่าทานเมนูเดิมๆ ซ้ำๆ ติดต่อกันจะดีกว่า

 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!

 

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข ชี้คนไทยป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเฉลี่ยชม.ละ 30 คน เสียชีวิตเฉลี่ยชม.ละ 2 คน สาเหตุใหญ่ๆ มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป ตามมาด้วยการใช้ชีวิตที่ทำงานหนัก ไม่ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้นสุขภาพที่ดี จะต้องเริ่มต้นที่อาหารก่อนอันดับแรก หากคิดจะกินเจให้ได้บุญ ก็ต้องกินเจให้ได้สุขภาพที่ดีควบคู่กันไปด้วย

 

เตือน 5 วิธีกินเจแบบผิดๆ เสี่ยงเป็นโรคไต - โรคหัวใจ ควรใส่ใจและระวัง!