ย้อนฟังพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เล่าถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยภาษาถิ่นถึงความรักและเคารพที่มีต่อพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักยิ่ง

13 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เนื่องในวันครบรอบ 2 ปีแห่งความสูญเสียครั้งใหญ่ของปวงชนชาวไทยเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่9 พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.52 นาฬิกา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

 

ทั้งนี้เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาไว้ทุกข์ถวายความอาลัยโดยจากนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตและวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ย้อนกลับไปก่อนหน้า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 บนเฟซบุ๊กของ กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ที่พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเล่าด้วยความทราบซึ้งใจถึงความดีของพระองค์ท่านที่ฟังแล้วซาบซึ้งไม่ได้

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

โดยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ดำรงตำแหน่ง 3 สมัย ระหว่างปี พ.ศ. 2523 - 2531 คน 5 แผ่นดิน ได้กล่าวถึง "ในหลวง รัชกาลที่ ๙" ด้วยภาษาบ้านเกิดก็คือภาษาใต้
มีใจความในบางตอนที่สำคัญๆ อาทิเช่น

"ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคต ท่านเอาเงินมาให้ร้อยล้าน ให้ไปดูโรงเรียนชายแดนที่กันดารที่สุด โรงเรียนไหนที่กันดารที่สุดให้ไปช่วยเค้า"

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

"เห็นคนโบกธงไทย โบกธงทรงพระเจริญ แต่น้ำตาไหล มันแสดงให้เห็นหลายอย่างนะ.."

"ใครเป็นครู ใครที่ดูแลเด็กๆ พระองค์ทรงบอกว่า ให้สร้างคนดี ก่อนที่จะสร้างคนเก่ง ช่วยสร้างคนไทยให้เป็นคนดี ส่วนคนเก่งให้สร้างทีหลัง"

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

เราต้องรักษาคนดีไว้ให้ได้ รัชกาลที่ ๙ ท่านห่วงคนยากคนจนมาก ทรงบอกกับคุณยายที่รอรับเสด็จจนดอกบัวเหี่ยวว่า "เสียใจนะที่ทำให้รอ..." แล้วท่านก็ทรงรับดอกบัวเหี่ยวๆนั้นไป บรรยายความดีของท่านวันหนึ่งก็ไม่หมด

และยังกล่าวอีกด้วยว่า"ไม่มีพระเจ้าแผ่นดินองค์ไหน ที่ดีเหมือนรัชกาลที่9 แต่ต่อไปผมไม่รู้นะ ผมอาจจะตายไปก่อน"

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ย้อนฟังเมื่อครั้ง"พล.อ.เปรม" บุรุษ5แผ่นดินเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อในหลวงร.9 (คลิป)

 

ย้อนเหตุการณ์แห่งความสูญเสีย เริ่มจากวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สำนักพระราชวังแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญเพื่อมาตรวจพระวรกายของคณะแพทย์ ผลการตรวจพบว่าพระโลหิต อุณหภูมิพระวรกาย ความดันพระโลหิตพระหทัย และระบบการหายพระทัยเป็นปกติ

ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ประชวร ว่ามีพระปรอทต่ำ หายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะ พระปับผาสะซ้ายอักเสบ มีพระโลหิตเป็นกรด และพบว่ามีน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มพระปัปผาสะเล็กน้อย

ในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีความดันพระโลหิตลดต่ำลง คณะแพทย์จึงรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อฟอกพระโลหิตระยะยาว แต่มีพระความดันพระโลหิตต่ำจึงใช้เครื่องช่วยหายพระทัย และมีการฟอกไต พระอาการไม่คงที่ ก่อนที่พระอาการจะเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ ทรงมีการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปกติ และมีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 38 ความว่า

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกับภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการถวายตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่า มีภาวะการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด

วันที่ 12 ตุลาคม พระราชโอรส-ธิดาทั้งสี่พระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธออีกสองพระองค์เข้าเยี่ยมพระอาการประชวร โดยนับตั้งแต่สำนักพระราชวังได้แถลงการณ์พระอาการประชวร ฉบับที่ 37 ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางมายังโรงพยาบาลศิริราชเพื่อถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร กิจกรรมสำคัญคือการสวดบทโพชฌังคปริตร ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นบทสวดมนต์ปัดเป่าโรคร้าย พร้อมทั้งมีการเชิญชวนประชาชนสวมเสื้อสีชมพูซึ่งเป็นสีเสริมดวงพระราชสมภพและมีการร่วมกันถวายพระพรทั่วทั้งสื่อสังคม วันที่ 13 ตุลาคม พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จฯ มายังโรงพยาบาลศิริราช

ต่อมาสำนักพระราชวังมีประกาศเรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ความว่า

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก วิกิพีเดีย