ปิดฉากล่า25ปี อดีตบิ๊กตร.-เมียคดียิงเสี่ยปั๊มน้ำมันสารภาพสิ้น นายใหญ่คนจ้าง เสี่ยท้งจมน้ำที่ตจว. (คลิป)

จากคดีอุกอาจคนร้ายบุกยิงเสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันและภรรยา ส่งผลให้นายประชา วรทัศน์ อายุ 50 ปี ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่บริเวณท้ายทอยทะลุเบ้าตาเสียชีวิต ส่วนนางปรีดา วรทัศน์ ภรรยา ถูกยิงที่แขนและแผ่นหลัง 4-5 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ต่อมาได้สัมภาษณ์เพื่อนบ้านคือเสี่ยท้ง ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่านางปาลิดา ภรรยาของเสี่ยปั๊มน้ำมันที่ถูกยิงได้วิ่งมาร้องขอความช่วยเหลือซึ่งวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 05.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4-5 นัด จากนั้นนางปาลิดาได้วิ่งเข้ามาบอกว่าช่วยด้วย หนูถูกยิง ตนจึงรีบปลุกคนในบ้านให้รีบไปช่วยเหลือนางปาลิตา

 

 

ในวันนั้นเสี่ยท้งปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ขายกิจการให้กับสองสามีภรรยาคู่นี้แต่ที่ขายให้เป็นหลานชายของตนสามีภรรยาคู่นี้ ทำธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และตั้งแต่ทำมา คาดว่าไม่น่าจะทำธุรกิจแล้วขาดทุน เนื่องจากเห็นว่ามีเงินส่งธนาคารทุกเดือน

และยังบอกอีกด้วยว่าคนร้ายคงตั้งใจมาก่อเหตุเพราะแค้นเคืองเนื่องจากนายประชาผู้เสียชีวิตมักพูดจาโผงผาง ถ้าหากมีใครมาเกะกะที่บริเวณปั๊ม ก็จะพูดว่า “เดี๋ยวเอามีดฟันคอขาด” หรือไม่ก็ “เดี๋ยวเอาปืนยิงทิ้งเลยมึง” แต่นิสัยของนางปาลิดา ภรรยาของผู้เสียชีวิต เป็นคนเรียบร้อย ส่วนตัวจึงคิดว่าเพราะคำพูดของนายประชาเป็นเหตุให้มีคนแค้นจึงมาบุกยิง

 

 

 

วันที่ 5 ต.ค. 2561 เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อพบเสี่ยท้งกลายเป็นศพจมน้ำอยู่ที่บ้านของลูกจ้างในต่างจังหวัด โดยพ.ต.อ.ชัชนันต์ พรบุตร ผกก.สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำในทุ่งนาหนองขอน บ้านเปือย ม.10 ต.เปือย อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ จึงได้ประสานไปยังแพทย์เวร รพ.ลืออำนาจ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบศพชายสูงวัยจมน้ำพร้อมรถวีลแชร์ทราบชื่อ ดำรงฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งก็คือเสี่ยท้ง ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บุกยิงเสี่ยปั๊มน้ำมันและภรรยาที่จ.สระแก้ว

จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตัวพยานกว่า 20 ปากมาสอบปากคำถึงคดีบุกยิงเสี่ยปั๊มน้ำมันจึงได้ความว่ารถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นคันเดียวกันกับรถจักรยานยนต์ของนางธนพร สุขโขจัย ซึ่งเป็นภรรยาของอดีดนายตำรวจคนดัง พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ ซึ่งหลบหนีคดีร่วมกันอุ้มฆ่าเผานั่งยางนายชัยชนะ หรือเสี่ยอ้วน หมายงาน คนดังตลาดโรงเกลือ

 

 

และในวันที่ 6 ตุลาคม 2561 กองบังคับการปราบปรามทราบ ออกหมายจับนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ผู้ต้องหาตามหมายจับ อดีตมืออุ้มฆ่า2แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์

 

 

 

ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค. 2561 มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้จับกุมตัว นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 62 ปี พร้อมภรรยา สำหรับนายพันศักดิ์ เป็นอดีตตำรวจยศ พันตำรวจโท อดีตนักสืบที่พัวพันคดีฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ และนางธนพร สุขโขจัย อายุ 50 ปี ภรรยานายพันศักดิ์ ที่ก่อเหตุฆ่า นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ถนนเทศบาล 6 อ.เมืองสระแก้ว และนางปาริดา วรทัด อายุ 50 ปี ภรรยาบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งขณะนี้ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กองปราบปราม

 

 

 

ก่อนเข้าจับกุม พันตำรวจเอกจิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองปราบปราม ได้สั่งการให้พันตำรวจเอกจรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก. ป. พร้อมด้วยตั้งชุดปฏิบัติการออกสืบสวนหาข่าวและไล่ล่านายพันศักดิ์ พร้อมกำชับชุดปฏิบัติงานให้ทำงานอย่างระมัดระวังตัวเนื่องจากคนร้ายอาจจะมีการต่อสู้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุมแต่โดยดี เพราะว่านายพันศักดิ์เป็นมือปืนโหดเหี้ยม มีคดีติดตัวจนศาลจังหวัดสระแก้วพิพากษาประหารชีวิต แต่กลับหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ซ้ำยังกลับมาก่อคดีฆ่าอีกครั้งไม่เกรงกลัวกฎหมาย

 

 

หลังควบคุมตัวมาถึงกองปราบปราม ได้นำตัวมาสอบปากคำโดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ โดยพันตำรวจเอกจิรภพ กล่าวว่า นายพันศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้รับงานมาจากเฮียท้งให้ไปยิงนายประชา เป็นเงิน 1 แสนบาทเเละเป็นการตอบแทนเฮียท้ง ที่ทั้งคู่คบหากันมานาน แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นคนลงมือยิงผู้ตาย แต่แนวทางสืบสวนพบว่ามีพยานยืนยันว่านายพันศักดิ์ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายพันศักดิ์ ไว้ในห้องควบคุมก่อนที่จะนำตัวส่งตำรวจพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป

นายพันศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีพบร่างเสี่ยท้งจมน้ำเสียชีวิตว่าคงเป็นเพราะหลังเกิดเหตุแล้วรู้สึกผิดจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายนั่นเอง

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากรายการทุบโต๊ะข่าว