- 17 ต.ค. 2561
สายเขียวได้เฮ! เปิดผลโหวต สนช. หนุนปลดล็อค "กัญชา" ท่วมท้น!
จากการลงมติเห็นด้วยของคณะกรรมการ สนช. กรณีการใช้กัญชา ในวงการแพทย์ นำโดย นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิปสนช. และสมาชิกสนช.รวม 44 ราย นำเสนอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ต่อที่ประชุมสนช. เพื่อแก้ไขให้ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 คือ กัญชาและพืชกระท่อม สามารถนำไปศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถนำไปใช้ในการรักษาภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ได้ หลังมีผลพิสูจน์จากทางการแพทย์ แล้วว่าสารสะกัดที่ได้จากกัญชา สามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ได้ผลทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้นร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับนี้ยังอนุญาติให้ผู้ที่สามารถครอบครองกัญชาได้ ประกอบด้วย กระทรวง ทบวง กรม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย หรือองค์การเภสัชกรรม ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ได้แก่ เวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง แพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการวิจัยทางการแพทย์ของทางราชการ
ส่วนเงื่อนไขคือ ต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่เคยต้องคำพิพากษา ถึงการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตใจ สารระเหย สำหรับร่างกฎหมายยังกำหนดการอนุญาตให้ทดลองปลูก ผลิต เสพหรือครอบครอง โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นผู้พิจารณาอนุญาต นอกจากนั้นยังยกเว้นความผิดสำหรับผู้ใช้ยาเสพติดประเภท 2 ซึ่งโดยทั่วไป มี 102 รายการ เช่น ใบโคคา โคคาอีน โคเดอีน ยาสกัดเข้มข้นของต้นฝิ่นแห้ง เมทาโดน มอร์ฟีน ฝิ่นยา (ฝิ่นที่ผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งเพื่อใช้ในทางยา) ฝิ่น (ฝิ่นดิบ ฝิ่นสุก มูลฝิ่น) และ ประเภท 5 ที่มี 4 รายการ คือ กัญชา พืชกระท่อม พืชฝิ่น ทุกส่วนของพืชกัญชา ทุกส่วนของพืชกระท่อม และพืชเห็ดขี้ควาย เพื่อเป็นยารักษาโรคแต่ต้องมีใบอนุญาต
สำหรับ ผลสรุปการรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์วุฒิสภา เมื่อวันที่ 1 – 15 ต.ค. ที่ผ่านมา มีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 16,431 คน ผลปรากฏว่า เห็นด้วย 16,264 คน คิดเป็นร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยจำนวน 150 คน คิดเป็นร้อยละ 1 ในส่วนของเฟซบุ๊กเพจ สนช. ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียล 290,646 ราย ในขั้นตอนต่อไปทาง สนช. จะมีการจัดให้ทำประชาพิจารณ์ ซึ่งจะมีตัวแทนหลายภาคส่วนเข้าร่วมในวันที่ 30 ต.ค. 2561 ที่จะถึงนี้ก่อนสรุปเป็นขั้นตอนต่อไปว่า จะพิจารณาเช่นไร แต่นี่ก็เป็นอีกครึ่งทางที่ทางการแพทย์ออกมายอมรับฤทธิ์ คุณประโยชน์ในการรักษาของกัญชา แทนที่จะมองในมุมลบเพียงอย่างเดียว เพราะพืชสมุนไพรทุกประเภทนั้นมีทั้งด้านดี ด้านร้ายในตัวเพียงแค่ว่าจะดึงส่วนดี มาใช้โดยลบล้างส่วนที่เสียได้มากเพียงใด หากสามารถนำกัญชามาเป็นส่วนประกอบยาที่ถูกกฎหมายได้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าบทหนึ่งของวงการแพทย์ไทยเลยทีเดียว
โดยล่าสุดในวันนี้ (17/10/2561) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ฐานะผู้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อปลดล็อคกัญชาให้นำไปใช้วิจัยพัฒนาเป็นยารักษาโรค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพรบ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ …) พ.ศ. …เพื่อปลดล็อคกัญชาให้ทำยารักษาโรคได้ ตั้งแต่วันที่ 1-15 ต.ค.61
มีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด จำนวน 16,431 คน
1. เห็นด้วย จำนวน 16,264 คน
2. ไม่เห็นด้วย จำนวน 150 คน
3. งดแสดงความคิดเห็น จำนวน 17 คน
ในส่วนของเพจเฟซบุ๊ก สนช. ก็มีผู้เข้ามาชม พ.ร.บ.นี้สูงถึง 290,646 รายครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจติดตามและช่วยแสดงความคิดเห็น
ผมและ 44 สนช. จะเร่งเดินหน้ารับฟังความเห็นในเวทีอีกครั้ง ในเดือน ต.ค. นี้ ก่อนนำเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ. ฉบับนี้โดยเร็วต่อไปครับ