- 18 ต.ค. 2561
อยากจบก็จ่าย! "ประจักษ์ชัย" ลั่น! "อาม ชุติมา" อยากได้อิสระจ่ายมา 2ล้าน แฉ! ซื้อให้ทุกอย่างแม้กระทั่งกางเกงใน? (คลิป)
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนักร้องสาว อาร์ม ชุติมา มาที่สภ.วังเย็นเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยได้มีการเผยแพร่ภาพนักร้องสาวยืนร้องไห้อยู่บนโรงพัก
ต่อมาทราบว่านายวิศาล สมจุ้ย ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้บริหารค่ายไหทองคำเร็คคอร์ด เป็นผู้เข้าพบ ร.ต.อ. พิทักษ์ ชนะเกตุ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.ชุติมา โสภาภักดิ์ หรือ อาร์ม ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ของนักแสดง โดยไปแสดงเสียงแพร่ภาพหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งบันทึกการแสดงที่ยังไม่มีการบันทึกไว้ ทำซ้ำซึ่งบันทึกการแสดง ที่มีผู้บันทึกไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำให้ค่ายได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ทางค่าย ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนถึง 3 ครั้ง แต่ไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด จึงต้องเป็นเรื่องของการบังคับใช้ในข้อกฎหมาย
ซึ่งก่อนหน้านี้อาร์ม ชุติมา และนายประจักษ์ชัย เคยตกเป็นข่าวดราม่าจากกรณีนักร้องสาวซึ่งเป็นผู้แต่งเพลงผู้สาวขาเลาะ เพลงฮิตที่คนไทยทั่วประเทศรู้จักแต่เจ้าตัวกลับไม่เคยได้รับค่าตอบแทนอะไรจากผลงานเพลงนี้จนถึงขั้นแตกหักกับนายประจักษ์ชัยและถึงขั้นฟ้องร้องกันเป็นเรื่องดราม่าใหญ่โต
ต่อมาทางด้าน นายประจักษ์ชัย ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงว่าข้อหาที่แจ้งจับอาร์ม ชุติมานั้นแจ้งเพียงข้อหา ละเมิดสิทธิในตัวนักแสดงเท่านั้นไม่ได้แจ้งเรื่องลิขสิทธิ์ใคร
โดยโพสต์นี้มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเม้นต์ต่อว่านายประจักษ์ชัยเป็นจำนวนมากโดยมองว่าเป็นการรังแกเด็ก เหตุใดไม่ฉีกสัญญาอาร์มให้จบเรื่องไปแล้วปล่อยให้เธอเป็นอิสระไปทำมาหากินของตัวเองเพราะอย่างไรก็แตกหักจนไม่สามารถร่วมงานกันได้แล้ว ทำอย่างนี้เหมือนปิดหน้าปิดหลังเด็กนั่นเอง
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว วันนี้ (18/10/2561) “ประจักษ์ เนาวรัตน์” ได้ไปออกรายการโหนกระแส วันที่ 18 ต.ค. โดย “อริสรา กำธรเจริญ” เป็นผู้ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้สัมภาษณ์เปิดใจนายห้างประจักษ์ชัยถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ข้อหาที่โดนละเมิดลิขสิทธิ์ คุณอามละเมิดลิขสิทธิ์อะไร?
ประจักษ์ชัย : ต้องบอกก่อนว่าเป็นความลำบากใจ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราเคยอยู่ด้วยกัน ด้วยความรัก ทะนุถนอมน้อง แต่ว่าระยะเวลาที่มีข่าวในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นที่เราขอไกล่เกลี่ยให้มาพูดคุย น้องมีประเด็นน้อยใจ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผม น้องก็ขอแยกตัวเป็นอิสระ และบอกว่าตัวเองไม่มีสังกัด ตอนแรกบอกว่าไม่มีสัญญา แต่ไปๆ มาๆ ก็มีสัญญาจริง ที่ไปแจ้งจับวันนั้น มีขั้นตอนสืบเนื่องมาจากที่เราเคยเรียกมาคุยและยื่นโนติส ส่งจดหมายไปที่บ้านเกิด ประมาณ 3 ครั้ง น้องอาจให้ความสำคัญน้อยไปนิดนึง เลยไม่มีการพูคุยกัน ล่วงเลยไปเกือบ 5 เดือนหรือเราติดต่อไป น้องก็ไม่มีสัญญาณตอบรับว่าใส่ใจ ก็เลยเป็นขั้นตอนของฝ่ายกฎหมายที่เขารับงานไปแล้ว เขาก็เลยไปเชิญตัว ไม่ได้เรียกว่าจับกุม อันนี้เป็นภาษาข่าว ที่จริงรอให้น้องเล่นจนจบ แล้วเชิญตัวไปโรงพัก ไม่ได้รวบตัวโจ๋งครึ่มและน่าเกลียด ก็เชิญขึ้นรถตู้ น้องร้องไห้ไปถึงโรงพักแล้ว ก็เป็นธรรมดา นี่เป็นกฎหมายพิเศษ กฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องจับซึ่งหน้า ก็หาช่องทางไกล่เกลี่ยกัน”
อธิบายง่ายๆ ให้คนเข้าใจ?
ประจักษ์ชัย : “คนที่ไม่เข้าใจ เสพสื่อบางส่วนจะเข้าใจว่าการจับครั้งนี้เป็นผิดสัญญาลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งไม่ใช่ ลิขสิทธิ์เพลง เราให้ใครร้อง เราประกาศว่ายินดี ให้ทุกคนร้อง น้องอามก็ต้องมีสิทธิ์ร้อง แต่เพื่อให้เกิดประเด็นว่าผมใจร้าย หรือรังแกเด็ก ถ้าจะไปตั้งประเด็นการจับลิขสิทธิ์เพลง ทางฝ่ายกฎหมายก็ต้องรัดกุม ทั้งที่เพลงนี้โอนสิทธิ์ขาดแล้ว ผมจับลิขสิทธิ์เพลงก็ได้ด้วยนะ แต่น้ำหนักมันจะล่อแหลมและละเอียดอ่อน เขาเรียกว่าลิขสิทธิ์ในตัวนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลง ค่ายมวย ประกวดนางงาม ค่ายโมเดลลิ่ง ก็จะมีสัญญาแม่ก่อน เป็นสัญญาลิขสิทธิ์ในตัวศิลปิน ถ้าจะจับก็ค่อยพ่วงไป แต่มันละเอียดอ่อนมาก ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่ เป็นค่าย เขาเป็นเด็กผู้หญิงด้วย มันละเอียดอ่อนมาก ผมนอนอยู่ 5 เดือน ในการคิดจะทำอะไร เพราะเราสร้างมาด้วยกัน ไม่เคยลืม”
ตอนนี้อามยังเป็นเด็กในสังกัด? ประจักษ์ชัย : “อันนี้คือน้องอามเป็นคนเซ็นคุณพ่อคุณแม่เป็นคนเซ็น ตอนนั้นน้องอายุ 17 ปี เป็นผู้เยาว์ ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ตรงนี้” ก็ยังเหลืออีก 2 ปี 7 เดือน ตอนเซ็นสัญญาคุณแม่อ่านมั้ย? ประจักษ์ชัย : “อ่านด้วยกันครับ จะมาบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้อ่าน ด้วยสำนึกของคน อยู่ 2 ปี มีสัญญาคู่ฉบับนะครับ วันดีคืนดีบอกว่าไม่ได้อ่าน แล้วอ่านเฉพาะที่ตัวเองเสียเปรียบแล้วมาแย้งไม่ได้ สังคมไทยจะบอกว่าไม่รู้กฎหมายแล้วมาแย้งไม่ได้ ยิ่งบอกว่าอาจารย์ไม่ให้อ่าน มันยิ่งต้องอ่าน ไม่ได้บอกเลยว่าไม่ให้อ่าน การพูดว่าไม่เป็นธรรม โดนรังแก มันพูดได้หมด แต่คุณมีหลักฐานการจ่ายเงิน เบิกเงินตรงไหน ก็รู้กันแค่เราสองคน ทุกวันนี้เราไปศาลก็พูดด้วยเอกสาร เราไม่ได้รังแกเด็ก เราสร้างบรรทัดฐานให้ค่ายเพลงหลายค่าย ว่าไหทองคำ จะทำเคสนี้ให้เป็นกรณีศึกษายังไง ในยุคที่โซเชียลกำลังเบ่งบานแล้ว ศิลปินค่ายอื่นที่เคยอยากออกจากค่าย แล้วมีแบบนี้ เขารอเวลาให้ผ่านไป กับระยะเวลาที่เหลืออยู่ แต่ไม่ได้ใช้ฐานผู้ติดตามหรือสับสไคร์ มาเป็นแนวร่วม เขาเรียกว่าม็อบชนม็อบ แล้วเอามวลชนมาสู้กับสัญญา อย่างนี้คนก็ไม่มีกติกาสิครับ
จะสร้างบรรทัดฐานค่ายไหทองคำ?
ประจักษ์ชัย : ทุกค่ายครับ ไม่งั้นอยู่ๆ มาแหกสัญญา ฉีกสัญญา ตอนไม่ดังยอมอยู่ในกติกา คาแรคเตอร์ที่เราเลือกให้ทำ แต่พอเห็นกระแสอะไรเข้ามา ความมั่นใจเกิดขึ้น ก็มาขอฉีกสัญญา ฉีกสัญญาต้องฉีกทั้งสองฝ่าย เรื่องชดใช้ค่าเสียหายก็มาต่อรองกัน มันต้องพูดคุยกัน จบที่โต๊ะเจรจา แต่น้องไม่มี เราสื่อสารทุกช่องทาง หรือสุดท้ายใช้หมายศาล หรือโนติส”
วันที่อามมาจะคุยอะไรกันบ้าง?
ประจักษ์ชัย : ก็คุยกันว่าเราจะอยู่กันยังไง เงื่อนไขการรับงาน ตอนนี้ เรามีสัญญาแม่ คุณต้องปฏิบัติตาม ให้สัญญามันผ่านพ้นไป
ถ้าเขาอยากซื้อสัญญาคืน ใจไม่อยู่แล้ว?
ประจักษ์ชัย : “ก็ต้องมาคุยกัน จะให้ผมโดนด่าฟรี ไอ้หัวล้าน รังแกเด็ก ผมก็ไม่สบายใจ ขอแค่ให้เข้ามาคุย จะจบแบบไหนก็ให้เข้ามาคุย”
หลายคนอยากให้นายห้างประจักษ์ชัย ปล่อยน้องไป?
ประจักษ์ชัย : ปล่อยก็ได้ แต่ให้มาขอโทษบ้าง ให้มีความรู้สึกว่าเคยอยู่ด้วยกัน จำวันที่มากรุงเทพฯ แล้วไม่มีค่ารถมา ผมส่งค่ารถให้ วันแรกผมจำสร้อยผม ยังจำได้อยู่เลย แล้วทำเพลงอดีตเคยพังให้ ถามว่าวันนั้นอาจารย์ทุ่มเทขนาดไหน มาขอโทษผม อยากไปทำกับเพื่อนฟีลที่หนูอยากเป็น ขอนะอาจารย์ ผมไม่ใช่คนใจร้าย อย่าเอาแต่อารมณ์ ขอให้คิดถึงหัวอกคนปั้น วันที่ไม่ดัง คุณเดินมาใส่เสื้อตัวร้อยกว่าบาท คอนเวิร์สคู่แรกยังไม่มี ผมก็ซื้อให้ ที่มีข่าวว่าไม่ได้ซื้อให้แค่กางเกงในกับเสื้อยกทรง นั่นเป็นความจริง ซื้อให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ถ้าขอโทษและซื้อสัญญาคืน ต้องจ่ายเท่าไหร่?
ประจักษ์ชัย : 2 ล้านบาท ไม่ได้อยากได้เงินคุณหรอก แต่เขียนคุมเพื่อให้เกิดสภาพบังคับ ถ้ามีนายทุนพร้อมซื้อ 2 แสนต่อยอดน้องอาม เขาเอาไปต่อยอดได้กี่ล้าน เขาไม่ได้อยากได้เงินจากน้องอามหรอก ค่าลงทุนยังไม่เท่าเยียวยาความรู้สึก
ขอบคุณคลิปจากรายการ โหนกระแส