ทั้งฝนทั้งหนาว! กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศประเทศไทยวันนี้-สิ้นเดือน

ทั้งฝนทั้งหนาว! กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศประเทศไทยวันนี้-สิ้นเดือน

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศการเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการของประเทศไทยรายละเอียดตามเอกสาร

 

ทั้งฝนทั้งหนาว! กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศประเทศไทยวันนี้-สิ้นเดือน

 

 

ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 - 30 ต.ค. 2561 ระบุอากาศทุกภาคในประเทศไทย โดยตอนบนมีฝนลดลงและอากาศหนาวแต่ตอนภาคใต้มีฝนตกหนัก ระบุ

ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2561 - 30 ตุลาคม 2561 การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง โดยในภาคเหนือละภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

 

ทั้งฝนทั้งหนาว! กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศประเทศไทยวันนี้-สิ้นเดือน

 

ข้อควรระวัง   ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 2561 ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้เคลื่อนที่เข้าสู่อ่าวไทยตอนล่าง และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ผ่านภาคใต้ลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประเทศลาว เวียดนามตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง โดยในภาคเหนือละภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง
 

ทั้งฝนทั้งหนาว! กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศประเทศไทยวันนี้-สิ้นเดือน

 

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและทางตะวันตกของภาคและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง    ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างและทางตะวันตกของภาค

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก     ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ 

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 61 มีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 61 ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล     ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ยังได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากในบริเวณภาคใต้"  ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2561

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย มีแนวโน้มจะปกคลุมภาคใต้ในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 แล้วเคลื่อนผ่านไปยังทะเลอันดามันในวันที่ 26 ตุลาคม 2561  ทำให้ในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

และในวันที่ 26 ตุลาคม 2561 จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล 

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับคลื่นลมในบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.  

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศครั้งต่อไปใน วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) ภูเวียง ประคำมินทร์  รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา