ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!

จากกรณี ตามที่มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้ถอดอดีตข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วย การถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 ข้อ 1(2) และ(4) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 ข้อ 7 (2) และ (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ.2548

โดยถอด พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกจากยศตำรวจตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2545 ซึ่งเป็นวันที่ลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสราภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก

 

ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!

ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.สันธนะ ได้ปรากฏตัวระหว่างเข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง เนื่องจากมีการจำหน่ายอาหารเสริมและเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐาน โดยอ้างว่าตนเองเป็นที่ปรึกษาเจ้าของตลาด นำชายฉกรรจ์ขัดขวางการปฏิบัติงานของตำรวจ รวมถึงมีการปะทะคารมกับนายตำรวจที่นำกำลังเข้าตรวจค้น จนมีการออกหมายจับในข้อหากรรโชกทรัพย์

 

ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!

โดยล่าสุดในวันนี้นั้น (25/10/2561) ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสำนักงาน ก.พ. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล เดินทางมาคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดยศและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกขั้นตรา โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนของการคืนเครื่องราชย์ฯ

ทั้งนี้นายสันธนะ กล่าวว่า ตนน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม จึงนำพระราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นพันตำรวจโท ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2536 ส่งมอบคืนให้ สลค. และยังเทิดทูนต่อสถาบันเบื้องสูงและพร้อมปกป้องถวายชีวิตเพื่อรักษาสถาบันเบื้องสูงไว้แม้จะไม่มียศราชการก็ตาม และตนก็ยังเป็นสันธนะคนเดิม แม้จะมีคำนำหน้าว่านายก็ตาม โดยพร้อมจะทำหน้าที่ปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 (10) ที่จะไม่ร่วมมือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งและชั้นยศใดก็ตาม และอยากให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

“ที่ผมทำทุกวันนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน หลายคนให้คำแนะนำว่าอยากให้ทำหน้าที่โดยลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ส่วนจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใดนั้น ตอนนี้บอกได้ว่าไม่ใช่พรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ผมคุ้นเคยกับนักการเมืองหลายคน และยอมรับว่ามี 4 – 5 พรรคการเมืองที่ติดต่อมา แต่ยังไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับใคร และไม่ได้ฉวยโอกาสมาแสดงตัวต่อสังคม แต่การที่ถูกกระทำที่ผ่านมาทำให้รู้สึกท้อ ดังนั้น จากนี้จะเดินหน้าพิสูจน์ให้กระจ่างว่าสิ่งที่ถูกกระทำเป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่” นายสันธนะ กล่าว

 

ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!

ตอนนี้รู้สึกท้อ! "สันธนะ" กล่าวเปิดใจ หลังน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ส่งคืนเครื่องราชย์ฯ เตรียมตัวลงเลือกตั้ง!