"ตู่" สั่งคสช.หยุดให้ท้าย "พุทธะอิสระ" ขวางตั้งสังฆราช ! หวั่นสงครามกลางเมือง

ติดตามตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th

 

"ตู่ จตุพร" ย้ำ "พระพุทธะอิสระ" ผิดมาก ที่เคลื่อนไหวขวางตั้งสมเด็จช่วง เป็นสมเด็จพระสังฆราช รั้งแต่สร้างความขัดแย้ง ทั้งที่คุณสมบัติพร้อม -แถมคสช.ให้ท้ายมาตลอด     

 

 

 

 

วันนี้ ( 10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ถึงกรณีที่พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เคลื่อนไหวคัดค้านการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในวงการสงฆ์ เนื่องจากพระพุทธะอิสระ และพวก มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ โดยเรียกกลุ่มตัวเองว่า เครือข่ายชาวพุทธปกป้องศาสนา เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งสมเด็จช่วง เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 โดยอ้างว่า สมเด็จช่วง เป็นพระอุปชาของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีข้อกล่าวหาในคดีวัดพระธรรมกายที่รอการพิสูจน์จำนวนมาก จึงไม่เหมาะสมที่จะขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช

 


          นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่พระพุทธะอิสระ เคลื่อนไหวถือเป็นการสร้างความขัดแย้ง ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เคยห้ามปรามหรือเรียกตัวมาปรับทัศนคติ และไม่กล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และไม่เคยตั้งข้อหาชุมนุมเกิน 5 คน

 

 


          "คณะสงฆ์ปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์ที่ระบุชัดเจนว่า ต้องเสนอเจ้าคุณสมเด็จที่มีความอาวุโสโดยสมณศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ยกเว้นทรงอาพาธไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การที่พระพุทธะอิสระออกมาต่อต้าน จึงอาจทำให้ลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้" นายจตุพร กล่าว

 

 


          นายจตุพร กล่าวอีกว่า การโจมตีสมเด็จช่วง โดยพยายามเชื่อมข้อกล่าวหาของพระธัมมชโยให้เป็นความผิดของพระอุปชาด้วยนั้น ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะการบวชมีการกำหนดคุณสมบัติใครบวชได้ บวชไม่ได้ และต้องไม่หนีคดีมาบวช กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. มีคดีติดตัวมากมายยังบวชได้ แต่ไม่มีใครเอาผิดพระอุปชา กรณีพระธัมมชโยอยู่ระหว่างการพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากมีความผิดก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระอุปชา การนำข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ มาเล่นงานสมเด็จช่วง จึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม

 

 

 


          "การจะล้มการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชนั้น จะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเล่นงานพระฝ่ายมหานิกาย จะกลายเป็นชนวนใหญ่ของประเทศ ใหญ่กว่าอุทยานราชภักดิ์ ใหญ่กว่าการแก้ไขปัญหาชาวสวนยาง ใหญ่กว่าการแก้ไขปัญหาชาวนา และใหญ่กว่ารถไฟไทย-จีน" นายจตุพร กล่าว