"บิ๊กต๊อก" เมิน !! "เรืองไกร" เสนอยุบบอร์ด "สสส." เเนะ "วิชัย" เคารพกติกา

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

"ไพบูลย์ คุ้มฉายา" ไม่สนใจ !! "เรืองไกร" เสนอให้ยกเลิกเเละยุบบอร์ด "สสส." เหน็บ " นพ.วิชัย โชควิวัฒน์" ให้ยอมรับเเละเคารพกติกา

 

วันนี้(11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าจะส่งจดหมายยื่นข้อเสนอให้ตนในฐานะ ประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณายุบหรือยกเลิก กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ว่า เบื้องต้นตนยังไม่รับรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าถามว่าคำว่ายุบสสส.คืออะไร ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจความหมายนี้ที่นายเรืองไกรระบุ ถ้ามองว่าให้ยุบทั้งหมดเลยใช่หรือไม่นั้น ตนคิดและพูดเสมอว่า โครงการของสสส. เป็นโครงการที่มีประโยชน์แน่นอน เพราะดูแลเรื่องของสุราซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว อีกทั้ง มีหลายโครงการที่สสส.ทำไปแล้วก็เกิดประโยชน์

 

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้ามองในประเด็นที่ศอตช. หรือคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 1/2559 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 3 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้น จึงต้องแยกกันให้เข้าใจ

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าวันนี้จะมุ่งไปสู่การยุบสสส.เลยนั้น เท่าที่ตนมีข้อมูลอยู่ในวันนี้ก็ยังไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าสสส.ยังเป็นโครงการที่ดีที่ควรจะต้องเดินต่อ แต่ต้องเดินไปอย่างมีระบบ ซึ่งอาจจะต้องมีการจัดระบบใหม่และตนก็ได้บอกทางผู้แทนสสส.ไปว่า ถ้าหากสังคมเรามีการเคลือบแคลงก็คงต้องจัดระบบระเบียบกันใหม่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอยู่ที่ใจเราต่างหากที่จะมุ่งทำด้วยความตั้งใจและความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งก็ต้องปรับเปลี่ยนเรื่องที่สังคมเคลือบแคลง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ อดีตรองประธานบอร์ดสสส. ออกมาระบุเหมือนกับการถูกปลดตามคำสั่งคสช.ที่ 1/2559 ตามมาตรา 44 จะไม่มาขอความเป็นธรรมจากศอตช. เพราะเหมือนกับว่านพ.วิชัย ไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าวนั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด เพราะนั่นคือระบบที่ศอตช.ได้กำหนดไว้ ซึ่งผมให้สัมภาษณ์ไปแล้วหลายครั้ง การกำหนดรายชื่อตามมาตรา 44 นั้น เมื่อออกไปแล้วก็ไม่ได้หมายความจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เราก็รับเรื่องร้องเรียน รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเสมอ ซึ่งบัญชีที่ 1 และ2 ก็มีคนมาดำเนินการและเราก็ออกคำสั่งถอนให้ก็หลายท่าน"พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

 

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า เป็นเครื่องยืนยันว่าเราก็รับฟังในเรื่องนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และให้สัมภาษณ์แล้วหลายครั้ง ซึ่งเราจะไม่ระบุว่ามันเป็นความผิดเด็ดขาด แต่เราใช้มาตรการนี้เพื่อระงับยับยั้ง ดังนั้น เมื่อไม่ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนศาลยุติธรรมแล้ว การร้องทางการปกครองย่อมเกิดขึ้น และให้ความเป็นธรรมและกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมได้ นั่นคือหลักการ ถ้าเขาไม่มาใช้ เขาก็ต้องเคารพกติกา