"ถาวร" ยื่นนส.ถึง "บิ๊กตู่" แก้ไขราคายางดิ่งฮวบ - แนะรีบตั้งบอร์ด "กยท." เพื่อช่วยเกษตรกร !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"ถาวร เสนเนียม" โร่ยื่นหนังสือถึง "พล.อ.ประยุทธ์" แก้ไขปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำ พร้อมแนะนำให้รีบตั้งบอร์ด "การยางแห่งประเทศไทย" เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง ...

 

วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงาน ก.พ.) นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง การแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน
         


โดย นายถาวร กล่าวว่า องค์กรที่ขับเคลื่อนการบริหารยาง ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งชาติ คือ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่จัดตั้งมาได้ปีกว่าแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจัดตั้งคณะกรรมการ กยท.หรือบอร์ดอย่างเป็นทางการได้ ยังคงใช้บอร์ดชั่วคราวที่เป็นข้าราชการ 7 คน ซึ่งยังทำอะไรไม่ได้ รวมถึงการสรรหาผู้ว่า กยท.ที่สรรหามานาน ก็ยังไม่ได้อีกเช่นกัน แต่กลับใช้บุคคลที่มีความชำนาญในการปลูกพืชทดแทนมารักษาการแทน จึงทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
         


ขณะเดียวกัน กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางมาผนวกกับองค์กรสวนยางก็ยังคงขาดเอกภาพ อีกทั้งรัฐมนตรีที่แต่งตั้งขึ้นมาในภาวะที่ไม่ปกติก็เป็นทหาร แม้ว่าจะผ่านการบริหารช่อง 5 มาก็จริงแต่น่าจะไม่ใช่การบริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือบริหารยางในภาวะที่ไม่ปกติ ทำให้แก้ไขปัญหาไม่ได้ เมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อน ก็ส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีไปรับฟังปัญหา พอทนฟังไม่ได้ก้เดินออก ประชาชนเองก็ขอร้องให้รับฟังปัญหาก่อน เพื่อจะได้นำไปแก้ไขปัญหา เมื่อเรียกร้อหนักเข้า รัฐบาลก็บอกว่าพวกคุณปลูกยางมากเอง หรือแนะนำให้ประกอบอาชีพอื่น ซึ่งนี่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน
         


"ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การรีบตั้งบอร์ด กยท.และผู้ว่า กยท.ให้เร็วที่สุด รวมทั้งนำเงินจากเกษตรกรที่เก็บไว้จากภาษีกองทุนสวนยาง กิโลกรัมละ 1.40 บาท ที่ยังเหลือเป็นหมื่นล้าน ให้เอามาช่วยเหลือบรรเทา หรือเงินที่รักษาเสถียรภาพราคาที่ยังคงค้างอยู่ก็สามารถเอามาใช้ได้ และสิ่งสำคัญที่สุดหลายคนเอาตัวเลข กิโลกรัมละ 60 บาท ที่รัฐบาลนี้เคยสัญญาไว้ ผมจะไม่กำหนด แต่ขอกราบเรียนว่าเกษตรกรมีต้นทุนการผลิตยางกิโลกรัมละ 64 บาท ก็คิดดูว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร" นายถาวร กล่าวและว่า หากพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) มีการนำเรื่องแต่งตั้งบอร์ด กยท.และผู้ว่า กยท.เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ขอให้ตั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีจิตใจที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง
         


นายถาวร กล่าวต่อว่า ถ้านายกฯ เปิดโอกาสให้ผมคุยด้วย จะดีใจเป็นมาก และขอเสนอผ่านสื่อไปด้วยว่า การเป็นนักการเมือง แม้จะเป็นแค่ชั่วคราว นั่นคือการเป็นนักปกครองไปด้วย ต้องรับฟังคนอื่นโดยดุษฎียภาพและนำไปวินิจฉัย อย่าใจร้อน อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ต้องทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว ให้ใครเติมก็ได้ ที่พูดมาผมไม่ได้ว่าใคร แต่แนวทางของนักบริหาร หรือนักปกครองที่ดี ต้องรับฟังคนอื่นตลอดเวลา และต้องคิดว่าความเห็นของทั้งนักข่าว และเกษตรกร เป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าไม่ดี ก็ต้องค่อยๆ พิจารณาตัดออกไป อันไหนที่ดีก็เอาเข้ามาบูรณาการแล้วนำไปใช้
         


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรุ่งนี้มีการนำเรื่องตั้งบอร์ด กยท.เข้าที่ประชุม ครม.สถานการณ์จะคลี่คลายหรือไม่ ?

 

นายถาวร กล่าวว่า ตนคิดว่าน่าจะคลี่คลาย เพราะผู้ที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จากผู้ประกอบการด้านการส่งออก ด้านสถาบันเกษตรกร และนักวิชาการ ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันคิด และน่าจะมีจิตใจรับฟังมากขึ้น เมื่อถามต่อว่า จะให้เวลารัฐบาลจนถึงเมื่อใด นายถาวร กล่าวว่า อย่าไปกำหนดเลย ขอให้ท่านจริงใจ หากเรากำหนดขึ้นมาเดี๋ยวก็บอกว่าถาวรมากดดันผมอีก อยู่ในท้องถนนกดดันมาหกเจ็ดเดือนไม่พอหรือ เมื่อถามว่า มีรัฐมนตรีที่จะมาดูแลกระทรวงเกษตรฯในใจหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างอยู่แล้ว แต่ในส่วนของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ นั้น ผิดพลาดตั้งแต่นำน้ำมันปาล์มเข้ามาแล้ว