"เพื่อไทย" เตือนรบ.อย่าพึ่งพาแต่ "ชาวพญามังกร" แก้ศก. - หยุดเพิ่มความเหลื่อมล้ำให้ปชช.

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"อนุตตมา อมรวิวัฒน์" ออกโรงเตือนรัฐบาล !! เศรษฐกิจของประเทศจีนกำลังถดถอยและอย่าไปหวังพึ่งมาก รวมไปถึงการกีดกันการค้าที่เกิดจากภาวะทางการเมืองจะทำให้แย่หนักลงกว่าเดิมไปอีก และลดความเหลื่อมล้ำจากประชาชนรายได้น้อยด้วย ...

 

วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยได้คาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้จะยุ่งยากและย่ำแย่ ปรากฏว่าเศรษฐกิจของจีนทรุดตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี โดยต้องหยุดการซื้อขายหุ้นสองหนและค่าเงินหยวนอ่อนค่า ซึ่งถ้าหากจำกันได้คณะทำงานเศรษฐกิจเคยเตือนหลายเดือนก่อนแล้วว่า เศรษฐกิจของจีนจะหนักกว่าที่คิดและจะชะลอตัวไปหลายปี ความหวังที่จะพึ่งจีนทางเศรษฐกิจคงเป็นไปได้ยาก และราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงทะลุ 30 เหรียญแล้ว
         

 

นางสาวอนุตตมา กล่าวอีกว่า อีกทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับซาอุฯ และเกาหลีเหนือทดลองระเบิดไฮโดรเจน ยิ่งสร้างความตึงเครียด หากรัฐบาลไม่เข้าใจเศรษฐกิจตามที่ปล่อยให้โฆษกรัฐบาลออกมาแสดงความไม่รู้และความไม่เข้าใจเศรษฐกิจในภาพรวม การแก้ไขเศรษฐกิจจะทำไม่ได้ ประชาชนจะลำบากมาก แถมปัญหาการเมืองภายในประเทศ รวมถึงการกีดกันการค้าที่เกิดจากภาวะการเมืองจะยิ่งซ้ำเติมให้เศรษฐกิจยิ่งแย่มากขึ้น ขนาดธนาคารโลกยังออกมาระบุเลยว่า ปีนี้ไทยจะโตได้แค่เพียง 2% และโตต่ำที่สุดในอาเซียน โดยเพื่อนบ้านจะโตมากกว่าไทยมาก ขณะนี้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะเกษตรกรที่เงินยังไม่มีพอประทังชีวิตจะรู้สึกอย่างไร เมื่อต้องมองดูคนรวยและคนชั้นกลางแห่ช็อปปิ้งกันช่วงปีใหม่แล้วนำไปหักภาษีได้
         

 

"อีกทั้งจะมีการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้คนมีรายได้สูงสุดจาก 35% เหลือ 30% ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ คนที่ได้ประโยชน์จะมีไม่กี่หมื่นคน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาล แต่ประเทศจะขาดรายได้เป็นหมื่นล้านบาท และประชาชนที่กำลังลำบากกลับไม่ได้อะไร ยิ่งจะทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยรู้สึกถึงความเลื่อมล้ำมากขึ้น ตอนนี้เกษตรกรทั้งชาวนา ชาวสวนยางลำบากมาก หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมได้ ประชาชนจะทนไม่ไหว เพราะได้ยินแต่คำพูดรัฐบาลที่เที่ยวบอกว่าเศรษฐกิจไทยหยุดถดถอยและฟื้นแล้ว แต่เงินในกระเป๋าประชาชนกลับลดลงและแทบไม่มีเลย"