"ทีดีอาร์ไอ" หมัดตรง "ยุคปู"  ทำจำนำข้าวสูงกว่าตลาด !!

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th

 

"อดีตปธ.ทีดีอาร์ไอ" เข้าเบิกความคดีจำนำข้าวในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ย้ำ ยุคยิ่งลักษณ์รับจำนำข้าวสูงกว่าท้องตลาด  

 

 

 

วันนี้ ( 15 ม.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า     การไต่สวนพยานอัยการโจทก์นัดแรก ในคดีจำนำข้าว ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ผุ้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดหมาย มีน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย อัยการได้เบิกความพยาน 4 ปาก นายนิพนธ์ พัวพงศกร อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ที่ได้เปรียบเทียบระหว่างนโยบายประกันรายได้ กับนโยบายรับจำนำข้าว โดยยอมรับว่านโยบายประกันรายได้ เพิ่งถูกนำมาใข้ครั้งแรก ในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทีดีอาร์ไอ เป็นผู้เสนอหลักการ แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่กระทำตามข้อเสนอ ทั้งหมด ขณะที่นโยบายรับจำนำข้าวมีมานานกว่า 30 ปีแล้ว เป็นการรับจำนำในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ยกเว้นเมื่อมาถึงรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ให้มีการรับจำนำข้าวในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด ซึ่งทำให้เกษตรกร ที่มีฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย นายนิพนธ์ ยอมรับว่า ทีดีอาร์ไอ ไม่เคยทำวิจัย ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ก่อนหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะไต่สวน แต่ในระยะหลังมีการว่าจ้างทำวิจัยในโครงการนี้ และได้มีการเสนอผลกระทบทางตรง รวมทั้งมีรายงานสรุปให้กับป.ป.ช.แล้ว และแม้ป.ป.ช. จะนำไปปรับแก้ไขบางส่วน ก็ถือเป็นสิทธิ์ของป.ป.ช.เอง ระหว่างที่ถูกซักถามถึงความเหมาะสมการทำหน้าที่นักวิจัย นายนิพนธ์ ถึงกับมีเสียงสั่นเครือ พร้อมย้ำว่าได้ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยเลือกปฎิบัติ ขณะเดียวกัน ยังพบว่านายนิพนธ์ มีคำถามฝากทนายจำเลยไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งศาลระบุว่าเป็นสิทธิ์ ของพยาน

 

 

 


          ส่วนพยานปากที่สองเป็นสื่อมวลชน คือนายนพดล ทิพยวาน บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ยอมรับว่า ไม่เคยไปให้การในขั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. มาก่อน และทำหน้าที่นำเสนอข่าวตามที่มีการให้สัมภาษณ์เท่านั้น สำหรับคำถามพยานโจทก์ ในส่วนปากแรก มีทั้งหมด 10 คำถาม ขณะที่นายนิพนธ์ มีมากกว่า 160 คำถาม

 

 

 


          ด้านทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่าไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าพยานสามารถรับรู้คำถามของคู่ความได้ ซึ่งเมื่อถึงการนัดไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยก็จะขอคำถามจากศาลด้วย เพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกันในการปฎิบัติ ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และยังยืนยันพร้อมสู้คดี โดยนำข้อมูลที่พยานโจทก์ชี้แจงวันนี้ไปเตรียมข้อมูลโต้แย้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ส่วนด้านนอกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงปักหลักรอด้านนอก