ห้าวไม่เลิก !! "จ่านิว" นำทีม "ปชต.ใหม่" ประกาศค้าน "การจับ" ไม่วาย ชวน"ชาวสวนยาง" ร่วมเเสดงพลัง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

"จ่านิว" ห้าวคนเดียวไม่พอ !! เเท๊กทีมเพื่อน ร่วมเเถลงการณ์ "คัดค้านการจับกลุ่ม ปชต.ใหม่" จากเรื่องนั่งรถไฟไป "ราชภักดิ์" เเถมโชว์พับนกโชว์ สื่อถึงประชาธิปไตยที่หายไป พร้อมชวน "ชาวสวนยาง" ร่วมเเสดงพลังร่วมต่อต้าน

 

วันนี้(16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีรถไฟธนบุรี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์, น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ และนายกรกช แสงเย็นพัน แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาและกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดีเอ็ม) ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง การออกหมายจับสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จากการเข้าร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. พวกเราได้รับหมายเรียกจากการเข้าร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ จึงได้แสดงจุดยืนไม่เข้าร่วมในกระบวนการยุติธรรมภายใต้ระบอบเผด็จการ และวันนี้กระบวนการยุติธรรมภายใต้ระบอบเผด็จการก็ออกหมายจับพวกเราในที่สุด นี่คือรางวัลที่บุคคลจะได้รับจากการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นภายใต้การรัฐประหาร

 

แถลงการณ์ระบุต่อไปว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุทยานราชภักดิ์ ทั้งข้อกังขาที่ยังคงถูกปกปิดอยู่จนทุกวันนี้ ทั้งท่าทีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกองทัพที่ไม่มีความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลแก่ประชาชน ทั้งเห็นชะตากรรมที่ผู้มุ่งหมายจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องประสบ ได้แสดงให้เห็นจนเป็นอันสิ้นสงสัยแล้วว่าโครงการดังกล่าวมีการทุจริตจริง และย่อมกล่าวได้ว่าผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ได้แก่ คสช. และกองทัพ เป็นผู้ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ต่อจากนี้พวกเราจะขอเดินหน้าทำกิจกรรมตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ในอนาคตของ คสช. เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดควรจะได้รับ รวมถึงกิจกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายในการขับไล่เผด็จการ ทวงคืนประชาธิปไตย อย่างที่เคยทำต่อไป และขอยืนยันว่าจะไม่หนีไปไหน จะใช้ชีวิตอย่างเปิดเผย จะทำในสิ่งที่เชื่อมั่นตลอดมา และจะต่อสู้กับเผด็จการให้ถึงที่สุด

 

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า หากในอนาคตมีการควบคุมตัว พวกตนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการและเข้าสู่เรือนจำ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้จะย้อนรอยทำให้ตนถูกจับกุมเหมือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยเมื่อครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ ก็ไม่สามารถประเมินได้ เพราะเรื่องการดำเนินคดีอยู่ในส่วนของ คสช. ซึ่งตนก็จะไม่ประมาทต่อท่าทีของ คสช. และเตรียมพร้อมที่จะรับมือเสมอ การติดคุกไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกหรือน่ายินดี ยอมรับว่ากลัวไม่อยากติดคุก แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ เพราะตนมีความฝันอยากอยู่ในสังคมที่ดีกว่านี้ มีสิทธิเสรีภาพ ต่อให้เข้าคุกก็พร้อมรับสิ่งที่จะตามมา

 

ด้าน นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า เรายังติดใจในประเด็นการทุจริตอุทยานราชภักดิ์และต่อต้านรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เราก็จะเคลื่อนไหวในประเด็นอื่นต่อไปด้วย ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ยึดตั๋วรถไฟที่ตนสะสมไปนั้น ยืนยันว่าต้องเรียกร้องให้เอามาคืน เพราะเป็นทรัพย์สินส่วนตัว และไม่กังวลกับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขู่ว่าถ้าไม่ไปมอบตัวจะไม่ได้ประกันตัว เพราะจะได้ประกันหรือไม่เป็นกระบวนการสอบสวน ซึ่งตนไม่ยอมรับมาตั้งแต่ต้น และจะไม่ประกันตัว คดีนี้ผู้ฟ้องคดีเองก็เป็นทหารของ คสช. จึงไม่มีหลักประกันว่าจะไม่มีการกดดันจากรัฐบาล เราจึงไม่ยอมรับกระบวนการสอบสวนของรัฐบาลทหาร ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ทั้งยังถูกขัดขวางจนไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นความพยายามเบี่ยงประเด็นตรวจสอบการทุจริต แม้จะมีความพยายามไปข่มขู่ครอบครัวไปกดดัน แต่ถ้ามาจับตนก็พร้อมจะให้จับกุม ซึ่งขณะนี้ก็ยังเดินทางไปไหนมาได้ปกติ ไม่พบเจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม การออกหมายจับพวกตนแสดงให้เห็นถึงความไม่คงเส้นคงวา ไม่มีมาตรฐานของการใช้คำสั่ง คสช. เนื่องจากพระพุทธะอิสระยังชุมนุมได้ แต่พอเห็นต่างก็ใช้กฎหมายทำลายฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปก่อความไม่สงบหรือทำลายทรัพย์สินใครแต่อย่างใด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทั้ง 5 คน ได้พับหมายเรียกเป็นรูปนกให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ เพื่อสื่อถึงเสรีภาพในการต่อสู้ที่ได้หายไปตลอด และต่อมานายสิรวิชญ์ได้นั่งพักบริเวณสถานี มีชายคนหนึ่งระบุว่าตนเองเป็นชาวสวนยางเข้ามาพูดคุยด้วย โดยขอให้นายสิรวิชญ์ช่วยเรียกร้องแก้ไขปัญหาราคายางและจำนำข้าวด้วย เพราะมีความเดือดร้อนจนมีคนผูกคอตาย โดยนายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าความเดือดร้อนของเกษตรกรก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าพี่น้องเกษตรกรมีความเดือดร้อนก็มาเรียกร้องร่วมกันได้ เพราะความเดือดร้อนมาจากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล ตนยอมรับว่าเรื่องนี้ตนไม่มีความรู้มากนัก แต่ถ้าเสนอแนะมาก็ยินดีที่จะร่วมต่อสู้ อยากเห็นพลังของพี่น้องชาวสวนยางออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง หลังเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหมดได้เดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่ ซึ่งมีนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ แนวร่วมกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา เป็นผู้ขับ ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวจนถึงช่วงเดินทางกลับ ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวบุคคลทั้งหมดแต่อย่างใด