จำได้ไหม!? อดีตตลกดัง "แม็กก้า ชวนชื่น" พ้นโทษแล้ว!! พร้อมเผยชีวิตสุดระทมในห้องขัง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ http://www.tnews.co.th/

 

 

ทำเอาชีวิตดับวูบเลยทีเดียว สำหรับอดีตตลกชื่อดัง  "แม็กก้า ชวนชื่น"  หลังที่ผ่านมาถูกศาลพิพากษาให้ต้องโทษคดีค้ายาไอซ์ ต้องก้มหน้าก้มตารับโทษในห้องขังนานเกือบ 2 ปี  ที่แม้ตอนนี้จะพ้นโทษออกมาใช้ชีวิตปกติแล้ว แต่ก็ยังคงมีความทุกข์ฝังใจจากสิ่งที่ทำผิดพลาดไปอยู่ไม่น้อย  ล่าสุดได้ออกมาเล่าประสบการณ์ ความยากลำบากที่ได้รับในห้องขัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเอาเจ้าตัวต้องจำไปจนวันตาย ผ่านรายการจุดเดือด ทางช่อง 2 พร้อมทั้งวอนขอโอกาสจากสังคมเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวงการตลกอีกครั้ง


ชีวิตในห้องขัง ?

“ลำบากมากครับ เหนื่อยครับ ลำบากทุกอย่างตั้งแต่การกิน นอน การอยู่ ทุกอย่างมันไม่เหมือนข้างนอก มันบีบหมด”

อยู่ในนั้นนานแค่ไหน ?

                “1 ปี 6 เดือน 85 วันครับ ได้อภัยโทษด้วยครับ”

วันนี้พ้นโทษแล้ว ?

                “พอได้ออกมาก็รู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตใหม่ทุกอย่างมันเหมือนเริ่มต้นใหม่ เริ่มจากศูนย์ใหม่”

ชีวิตในนั้นให้อะไรกับเราบ้าง ?

                “มันทำให้มีสติมากขึ้น มีการคิดในการใช้ชีวิตมากขึ้น คิดว่าต่อไปตอนออกมาเราจะทำอะไรต่อ ชีวิตเราจะเป็นยังไง เราคิดไปทีละขั้น มันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มุทะลุจะทำอย่างเดียวโดยที่ไม่คิดถึงผลที่ตามมา”

นับวันรอที่จะพ้นโทษ ?

                “นับครับ แต่แรกๆ ที่เข้าไปก็คิดว่า เราคิดในด้านดีเพื่อปลอบใจตัวเราเองว่าอยู่ตลอดแล้ว ไม่ออกไปแล้ว ชีวิตเราอยู่ในคุกแล้ว ชีวิตนี้เราถึงอยู่ได้เราถึงต้องอยู่”


เสียใจไหมกับที่ผ่านมา ?

                “เสียใจครับ เพราะความเสียมันทำให้เรามีแรกผลักดันที่จะคิดในสิ่งใหม่ คิดถึงที่เราผิดพลาด”

ตอนอยู่ในนั้นคิดถึงครอบครัว หรือใครบ้างไหม ?

                “คิดถึงครับ คิดถึงทุกคน คิดถึงเพื่อน คิดถึงการใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก แต่ทำไงได้ครับเราต้องไม่คิด ถ้าเกิดเราคิดเราจะเป็นทุกข์ ผมคิดอย่างนั้น หลายๆ คนเพื่อนๆ  ที่เข้าไปติดอยู่ข้างในนั้นเราก็แบบเห็นเขาคิดถึงแต่บ้าน วันวันไม่คิดอะไร ป่านนี้แฟนจะทำอะไรเขียนจดหมายหาแฟน แต่เราไม่มีแฟน เรามีแค่ที่บ้านที่ต้องห่วง เราก็พยายามไม่คิด เดี๋ยวเขาก็มาเยี่ยมเดี๋ยวเราก็ต้องเจอ แค่อดใจรอ ทำให้มันอยู่ให้ได้เพราะว่าอยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ครับ แรกๆ คิดแบบนี้ แต่พอหลังๆ ก็เริ่มอยู่ได้”

มีใครมาเยี่ยมเราบ้าง ?

                “ก็มีแค่ที่บ้านครับ มีเพื่อนเก่าบ้าง อยู่ดีๆ เพื่อนสมัย ป.6 ก็รวมตัวกันไปเยี่ยม ผมรู้สึกดีใจมา(ยิ้ม) มาได้ยังไง ก็ดีครับที่เพื่อนยังคิดถึง”

พอออกมาแล้วครอบครัวว่ายังไงบ้าง ?

                “ก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้เริ่มต้นใหม่ เขาบอกทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้มันไม่สายเกินไป เพราะสิ่งที่เราคิดเราคิดตั้งแต่อยู่ข้างในแล้วว่าเราควรที่จะเริ่มใหม่”

ตั้งแต่ออกมาได้คิดต่อไปหาพี่น้อง เพื่อนๆ ในวงการบ้างหรือยยัง ?

                “ก็มีบ้างนะครับ ได้เจอบ้าง แต่ในวงการตลกยังไม่เจอครับ”

 

น้อยใจไหม ตอนเราติดโทษไม่มีเพื่อนตลกไปเยี่ยมเลย ?

                “ไม่เคยน้อยใจครับ เพราะว่าเราเข้าใจความรู้สึกเขาด้วย เอาใจเขามาใส่ใจเรา คดีอย่างนี้ ติดอย่างนี้ อยู่ในคุกอย่างนี้ใครเขาจะอยากมาเยี่ยม แค่รู้แล้วฝากความเป็นห่วงมา ฝากความคิดถึงมาแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว ผมก็อยู่ได้ทำให้มีกำลังใจแล้ว”

กลัวไหมว่าจะไม่มีงานติดต่อเข้ามา เพราะประวัติไม่ดี ?

                “ก็กลัวอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าคนเราเนาะ ผมรับความผิดแล้ว รับกรรมแล้ว ผมคิดว่าพอออกมาเขาก็น่าจะให้อภัยสิ่งที่ผมทำ เพราะว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรผมไม่เคยไปฆ่าใคร สิ่งที่ผมทำมาผมก็คิดได้หมดแล้ว คงไม่ได้กลับไปเป็นอย่างเก่า ใช้ชีวิตอย่างเก่า เราเห็นโรงศพมาแล้ว(ยิ้ม)”

คิดจะเข้าไปหาผู้ใหญ่ในวงการตลกไหม ?

                “ก็อยากเข้าไปครับ แต่ไม่รู้จะเข้าไปทางไหนดี อีกอย่างเราไม่กล้าด้วย ผมเป็นคนที่ขี้เกรงใจไม่กล้า ถ้าเกิดว่าท่านดูอยู่ พี่ๆ หรือใครดูอยู่คิดถึงผมก็ติดต่อมาได้ครับ”

 

ช่วงที่มีข่าวแรกๆ ทางชวนชื่นโกรธมาก ?

                “ตอนนั้นคงไม่อยากให้เขาเสียครับ แต่ใจผมมันเป็นชวนชื่นมาตั้งแต่เด็กๆ ผมอยู่มาตั้งแต่เด็กก็ได้ไปเจอกันที่งานแต่งแจ๊ส (แจ๊ส ชวนชื่น) ก็เลยได้คุยกันครั้งสุดท้าย(ก่อนเข้าห้องขัง) ก็เลยได้ยกมือไหว้พี่เขา ก็คุยกันสิ่งที่ผ่านมาขอโทษ เขาก็บอกไม่เป็นไร หลังจากนั้นมาก็ยังไม่ได้คุยกันเลยครับ หลังจากงานแต่งแจ๊สไปไม่กี่เดือนผมก็เข้ามาติดคุกแล้วครับ”

คิดจะเข้าไปหาพ่อดม ชวนชื่น หรือผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ไหม ?

                “มีคิดไว้ครับ แต่บางทีเราก็ต้องดูจังหวะด้วย ดูสะดวก ดูสถานะการเงินของเราด้วย ต้องใช้เงินครับการเดินทางเพราะออกมาเราก็ยังไม่มีงานเลยครับ ตอนนี้ก็พยายามติดต่อเพื่อน เข้าทางเพื่อนๆ ก่อน ให้เพื่อนๆ ช่วยมีงานตรงไหน ค่อยๆ เริ่มไปครับ ไม่เป็นไรผมใช้เวลาได้เสมอ อย่างน้อยก็คิดว่ามันยังดีกว่าข้างในนั้น เพราะอยู่ข้างในนั้นมันไม้ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้มากน้อยก็ทำ อะไรก็ทำ ขอให้เป็นงานเถอะครับ แล้วเป็นงานที่เรารัก งานที่เราชอบมันก็ถนัดอยู่แล้วครับ”

 

ตอนนี้เหมือนได้เริ่มต้นใหม่ ?

                “ใช่ครับหลังจากที่เศร้ามานาน ตอนที่ประกันออกมาก็เศร้าใช้ชีวิตแบบมีชนักติดหลังตลอด เพราะว่าตอนนั้นคดีเรายังไม่ตัด เราจะไปของทานใครเขาได้ เรารู้ตัวเองอยู่ถ้าเกิดเขาให้งานแล้วต้องติดคุกงานก็เสียอีก แล้วมันก็ผ่านมาจนได้”

ตอนนี้คือพ้นคดีแล้ว ?

                “มีแค่ไปรายงานตัวครับ เพราะผมกลับวันลดวันที่ 4 มีนาคมอีกครั้งหนึ่ง ก็จะได้ใบบริสูทธิ์แล้ว ไม่เป็นนักโทษแล้ว โทษ 1 ปี 10 เดือน 15 วัน แต่ได้อภัยโทษกับวันลดด้วยรวมกันแล้วเหลือ 1 ปี 6 เดือน 5 วัน ก็ถือว่าเยอะสำหรับนักโทษ”

ต้องเสียค่าปรับอะไรอีกไหม ?

                “ไม่ต้องเสียครับ เพราะเราได้อภัยโทษ ทีแรกยังคิดเลยว่าถ้ามีค่าปรับต้องติดเต็ม(ติดตุก) แล้วต้องไปติดค่าปรับอีกเพราะเราไม่มีเงินไงครับ แต่เป็นบุญมากเลยครับที่ได้อภัยโทษ นักโทษทุกคนรออยู่ 3 อย่าง คือ รอจดหมาย รอญาติมาเยี่ยม แล้วก็รอภัยโทษ  3 อย่างในชีวิตนักโทษที่รอ”

 

ติดตามเพิ่มเติมที่

จำได้ไหม!? อดีตตลกดัง "แม็กก้า ชวนชื่น" พ้นโทษแล้ว!! พร้อมเผยชีวิตสุดระทมในห้องขัง