"วัฒนา" อ้าง "อผศ." โกยเงิน 1.4 พันล้านขุดลอกคลอง - เหน็บคสช.ออกเมื่อไหร่ ปท.ดีขึ้น !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"วัฒนา เมืองสุข" โพสต์เฟซฯอ้าง "อผศ." ถูกรับจ้างก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำเป็นเงินกว่า 1,458,847,255 บาท 424 สัญญา ให้แก่ส่วนราชการ ทั้งๆที่คนยังไม่พร้อมและไม่มีประสบการณ์ เป็นการสมคบคิดหาผลประโยชน์โดยมิชอบ - เหน็บ "คสช." บ้านเมืองดีขึ้นแน่ หากพ้นตำแหน่งไป ...
 


วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว "Watana Muangsook" โดยระบุเนื้อหาว่า

 

"เมื่อ คสช แหกกฏเสียเอง"

 

เรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจไม่แพ้การทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ คือเรื่องที่ผู้รับเหมาร้องเรียนว่าถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างความใกล้ชิดกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช เรียกเก็บเงินค่าหัวคิวงานขุดลอกคูคลองที่ คสช มีมติเห็นชอบให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือ อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำฯ ให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยในปี พ.ศ. 2558 อผศ. ได้รับงานจากส่วนราชการรวม 424 สัญญา รวมมูลค่างาน 1,458,847,255 บาท ระยะเวลาส่งมอบงานสัญญาละประมาณ 60-150 วัน

 


หน่วยงานของ อผศ. ที่รับผิดชอบการก่อสร้าง คือฝ่ายส่งกำลังบำรุงซึ่งอยู่ในงานส่วนกลางประกอบด้วย กองบริการ กองการพัสดุ และกองก่อสร้าง ซึ่งเป็นเพียงฝ่ายที่ไม่เคยมีความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับงานการพัฒนาแหล่งน้ำเลย อีกทั้งยังมีบุคคลากรจำนวนจำกัด จึงไม่มีความพร้อมที่จะไปรับผิดชอบงานจำนวนถึง 424 โครงการซึ่งอยู่ต่างสถานที่กัน ต้องทำพร้อมกันและต้องใช้ทั้งคนทำงานและคนคุมงานหลายพันคน ดังนั้น เงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดให้ อผศ. ปฏิบัติภายใต้การเห็นชอบของ คสช คือจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเองตามขีดความสามารถหรือความพร้อม โดยมิได้เป็นการประกอบการงาน หรือการร่วมงาน หรือสมทบกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น จึงไม่มีทางเป็นไปได้มาตั้งแต่ต้น นอกจากจะเป็นการเอางานไปขายหรือช่วงต่อจนเป็นที่มาของข่าวลือดังกล่าว กรณีจึงเป็นการสมคบกันของหลายหน่วยงานเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และยังมีลักษณะเป็นการมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อันเป็นความผิดตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 แบบนี้คือตัวอย่างของการทุจริตเชิงนโยบายอย่างแท้จริง นอกจากนี้รองหัวหน้า คสช ที่ถูกนำไปอ้างเพื่อเก็บหัวคิวนั้นมีตำแหน่งเป็นนายกสภาทหารผ่านศึกด้วย จึงมีลักษณะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนตามกฎหมายของ ป.ป.ช. ทุกประการ

 


นับแต่ คสช ยึดอำนาจการปกครองประเทศ บ้านเมืองตกต่ำและมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นจนลามไปถึงศาสนจักรอย่างไม่เคยมีมาก่อน สาเหตุเนื่องจากการให้เสียงส่วนน้อยที่ไม่ได้มาจากประชาชน เป็นผู้ครอบงำการบริหารประเทศ ส่วนกลุ่มคนที่สร้างความขัดแย้งในสังคมขณะนี้ คือผลผลิตหรือพรรคพวกของ คสช ทั้งสิ้น คสช เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายและยอมรับการตรวจสอบ แต่ตัวเองและพรรคพวกกลับเป็นฝ่ายกระทำผิดเสียเอง ทั้งยังหนีการตรวจสอบด้วยการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ล่าสุดคือบริการล้างผิดตามมาตรา 270 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยและคณะ ท่านเชื่อเหมือนผมหรือไม่ว่า คสช ออกไปเมื่อไรบ้านเมืองดีขึ้นเมื่อนั้น