"มาร์ค" ชี้ชัด "แม้ว" จ้างสื่อตปท.เคลื่อนไหว - เชื่อป่วนเพราะ "ตระกูลชิน" ส่อแววเกาะตะราง !!

"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" จ้างสื่อต่างประเทศเคลื่อนไหวป่วนรัฐบาลเพราะ "ตระกูลชินวัตร" กำลังจะถูกตัดสินในหลายคดีและร่างรัฐธรรมนูญใกล้จะลงประชามติ - ทั้งนี้หากให้ "ทักษิณ" เป็นตัวแทนประชาธิปไตย จะเกิดความล้มเหลวสำหรับคสช. !!

 

วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ตั้งแต่รัฐประหารมาเกือบ 2 ปี ต้องยอมรับว่า นายทักษิณให้สัมภาษณ์ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวัตถุประสงค์คืออะไร แต่เคยมีคำพูด คือคำว่า แกล้งตาย ซึ่งมาถึงวันนี้ตนคิดว่ามันมีหลายปัจจัยที่อาจจะทำให้นายทักษิณเลือกในจังหวะที่จะออกมาแสดงความคิดเห็น เช่น ...

 

1. ก็ต้องยอมรับว่าคดีความที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในครอบครัว กำลังเดินหน้า จะเรียกว่าเข้มข้น ทั้งคดีจำนำข้าว ทั้งคดีกรุงไทย ซึ่งตนคิดว่าอันนี้ก็เป็นแรงกดดันในการที่จะให้นายทักษิณออกมาในลักษณะของการตอบโต้ และที่น่าสนใจก็คงจะเป็นคำพูดที่แสดงความมั่นใจว่าจะกลับมาโดยไม่จำเป็นจะต้องมารับโทษ
         

 

2. ก็เป็นจังหวะเวลาที่ประเด็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ และการลงประชามติกำลังจะมาถึง ซึ่งก็ค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าในกลุ่ม นปช. หรือผู้สนับสนุนนายทักษิณนั้น ก็ได้เลือกที่จะไม่ต้องรอแล้วว่าจะมีใครไปแก้อะไร หรือไม่แก้ แต่เดินหน้าเต็มที่ในการบอกว่าไม่เอา คัดค้าน ไม่สนใจด้วยว่าทางเลือกถ้าหากว่ามันตกไปคืออะไร ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการฟันธงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่จังหวะเวลานี้ที่จะออกมา
         

 

"นายทักษิณก็ต้องอาศัยสื่อต่างประเทศที่อยู่ใกล้ตัวเขา และไกลตัวเรา ในการที่จะเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหว ที่ผ่านมานายทักษิณเองก็มีการจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ บริษัทที่ทำงานล็อบบี้ ซึ่งก็จะสามารถช่วยให้เข้าถึงสื่อต่างๆ เหล่านี้ได้ พร้อมๆ กับต้องยอมรับความจริงว่าโลกตะวันตกซึ่งไม่ชอบการรัฐประหารอยู่แล้ว มีซุ่มเสียงจากที่ไหนที่ออกมาแสดงท่าทีในการคัดค้านก็จะมีโอกาสได้พื้นที่สูง แต่ตนคงไม่มองว่าเรื่องนี้จะเป็นความล้มเหลวของ คสช. เว้นแต่ว่าเกิดการฮั้วกันเรื่องคดีของนายทักษิณ ตนว่านั่นจะเป็นความล้มเหลวมากกว่า เพราะความคาดหวังที่มีต่อคนที่มารับผิดชอบบ้านเมืองตอนนี้ก็คือสามารถทำให้บ้านเมือง และกฎหมายนั้นเดินได้อย่างตรงไปตรงมา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
         

 

นายอภิสิทธ์ กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นตนคิดว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า พูดถึงเรื่องกฎหมาย แล้วก็ย้ำว่ากฎหมายจะต้องมีการบังคับใช้นั้น เป็นการยืนยันให้เกิดความมั่นใจว่า คสช. ไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีจุดยืนตรงนี้ ส่วนการปรองดองที่ว่านั้นมันต้องเป็นเรื่องอื่น ซึ่งตนก็ย้ำอยู่เสมอว่ามันเป็นเรื่องแปลกว่าเวลาพูดเรื่องปรองดอง จะต้องมีคนหยิบฉวยเรื่องของการนิรโทษกรรม หรือมาล้มคดีอะไรต่างๆ เป็นตัวตั้ง จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ใช่ เราควรจะมองไปข้างหน้ามากกว่าว่าจะสามารถทำให้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างต่อไปนั้นอยู่ด้วยกันด้วยการยอมรับซึ่งกันและกันอย่างไร
         

 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นความท้าทายเหมือนกันเพราะว่าเมื่อ คสช. ทำงานจนเสร็จ ถ้ามีการปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรง การเผชิญหน้า โดยไปเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของบุคคลใด บุคคลหนึ่ง คสช. ก็จะถูกมองว่าไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากสภาพปัญหาเดิมๆ หรือถ้าหากว่าในที่สุดต่างประเทศก็ยังไม่เข้าใจว่าประเทศไทยก้าวพ้นจากตรงนี้เข้าสู่ขั้นต่อไปของโรดแมพ แล้วกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะเป็นความล้มเหลวได้เหมือนกัน ถ้าเกิดสื่อต่างประเทศก็ยังบอกว่า ประเทศไทยก็ยังมีความไม่เป็นประชาธิปไตย มีความไม่ชอบธรรม นายทักษิณยังกลายเป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตยสำหรับสื่อต่างประเทศ ตนคิดว่านั่นก็เป็นความล้มเหลวอย่างหนึ่ง