"บิ๊กป้อม"เยือน "เบลารุส"พัฒนาความร่วมมือทางทหาร

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th

"พล.อ.ประวิตร"พร้อมคณะ เดินทางเยือนสหพันธรัฐเบลารุสอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 26 - 27 ก.พ. 59

 

วันนี้  (27 ก.พ.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรมน. และรมต.กห. พร้อมคณะได้เดินทางเยือนสหพันธรัฐเบลารุสอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 26 - 27 ก.พ.2559 เพื่อกระชับความร่วมด้านความมั่นคงตามคำเชิญของเบลารุส โดยได้เข้าเยี่ยมคำนับ นายอเลกซานเดอรื ลุกาเซนโก (Alexander Lukashenko)ประธานาธิบดีเบลารุส ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกัน โดยประธานาธิบดีเบลารุส กล่าวว่า การเดินทางเยือนของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนระดับสูงที่เปิดหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของความสัมพันธ์ ไทย - เบลารุส ในการพัฒนาไปสู่ความร่วมมือด้านต่างๆ ของทั้งสองประเทศเบลารุสให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนการแสดงความตกลงที่จะลงนามร่วมกันระหว่างรัฐบาลเบลารุสและรัฐบาลไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพในด้านต่างๆ ที่สามารถนำไปสู่การเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งด้านการทหาร การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการค้าการลงทุนโดยเฉพาะการท่องเที่ยวของไทยที่มีศักยภาพและเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนเบลารุส ขณะเดียวกันก็ขอเชิญผู้แทนด้านต่างๆร่วมแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนระหว่างกันพร้อมทั้งเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมทั้งสองฝ่าย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆของทั้งสองประเทศให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีเบลารุส ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยมิตรไมตรีพร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเยือนครั้งนี้ ไทยพร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันให้เกิดความร่วมมือของทั้งสองประเทศในทุกมิติ ซึ่งไทยอยู่ระหว่างการแต่งตั้งกงศุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำเบลารุส

 

ขณะเดียวกันการจัดตั้งกรรมาธิการร่วมทั้งสองฝ่ายและการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนด้านต่างๆ ระหว่างกัน รวมทั้งช่องทางการทูตจะเป้นกลไกประสานการทำงานร่วมกันให้เกิดความริเริ่มใหม่ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมกันนี้ไทยมีความประสงค์ให้เบลารุสได้ใช้ศักยภาพด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีร่วมลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งไทยพร้อมที่จะเป็นประตูสู่อาเซียนสำหรับเบลารุสในอนาคต

 

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคนิคทางทหารโดยได้หารือกับรองประธานคณะกรรมการว่าด้วยอุตสาหกรรมทางทหารและคณะเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศร่วมกัน จากนั้นได้ร่วมกันลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารพร้อมทั้งเห็นชอบร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วม เพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันต่อไป

 

ต่อจากนั้น ได้เข้าพบและหารือความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหารกับ พล.ท.อังเดร ราฟคอฟ (Andrei Ravkov)รมว.กห.เบลารุส พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางทหารและขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมป้องกันกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่า การพัฒนาความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่จะนำไปสู่การขยายโอกาสของการส่งเสิรมและพัฒนาความร่วมมือทางทหารให้มีขอบเขตครอบคลุมความร่วมมือใหม่ๆ มากขึ้น พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อสานต่อและขยายความร่วมมือทางทหารร่วมกันโดยในขั้นต้นอาจหารือถึงความร่วมมือในการฝึกศึกษาร่วมกันผู้ชำนาญการทหารระดับต่างๆ เป็นต้น

 

ในตอนท้าย รมว.กห.เบลารุส ได้กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมเบลารุสได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศไทยมาตลอด ขอชื่นชมและให้ความเคารพอย่างสูงที่กองทัพทำหน้าที่เป็นสถาบันหลักของประเทศ ที่มีระเบียบวินัยและได้รับการยอมรับจากประชาชนในการเข้ามาควบคุมวิกฤตและการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งสำคัญ อย่างสงบที่ผ่านมาและหวังว่าจะได้ร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมทั้งสองร่วมกันต่อไป

 

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนสหพันธ์รัฐรัสเซียและสาธารณรัฐเบลารุสอย่างเป็นทางการ ของ รองนรม.และรมว.กห.ครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ประเทศไทยจะได้ขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ ในลักษณะพึ่งพอ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและภูมิภาคร่วมกัน ในภาวะที่ทุกประเทศต้องแสวงความร่วมมือในลักษณะพึ่งพาซึ่งกันและกัน 

 

ในตอนท้าย พล.ท.อังเดร กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมเบลารุสได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศไทยมาตลอด ขอชื่นชมและให้การเคารพอย่างสูงที่กองทัพไทยทำหน้าที่เป็นสถาบัน