ถอดรหัสคำอำลา "สรยุทธ" ทำรู้เลย! เขาเป็นคนยังไง!!!???

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ http://www.tnews.co.th/


 

กลายเป็นข่าวที่ยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง จากกรณีพิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" โพสต์ข้อความผ่านอินสตราแกรม ประกาศยุติการทำหน้าที่พิธีกรข่าว กับข้อความซึ่งระบุว่า "ขอยุติการทำหน้าที่พิธีกร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย พร้อมทั้งขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ "

          อย่างไรก็ตาม จากข้อความประกาศยุติบทบาทดังกล่าว ล่าสุดอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Warat Karuchit ได้มีการออกมาถอดรหัสแต่ละคำจากข้อความอำลาของสรยุทธ อย่างละเอียดยิบ โดยมีรายละเอียดดังนี้....

 

ถอดรหัสคำอำลา "สรยุทธ"

ทฤษฎี Symbolic Interactionism เชื่อว่าคำพูดของคน เป็นสัญญะที่สะท้อนให้เห็นความคิดของผู้พูด รวมไปถึงการเลือกคำ การเรียบเรียง และอื่นๆ (เช่นวิธีการพูดหรือการเขียน) ซึ่ง "ความคิด" ก็จะสะท้อนให้เห็น "ตัวตน" ของคนผู้นั้นอีกต่อหนึ่ง

"เหตุผล"
เหตุผลแรก ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่สรยุทธให้ในการยุติการทำหน้าที่ คือ "ไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3" จึงตีความได้ว่า เหตุผลสำคัญที่หยุดทำหน้าที่ ไม่ได้มาจากความต้องการของตนเอง แต่มาจากแรงกดดันต่อสถานี ซึ่งเราได้เห็นว่ามีหลายบริษัทเริ่มที่จะแบนรายการ และเริ่มจะแบนสถานีไปด้วย ซึ่งอันนี้ก็ไม่แน่ชัดว่าทางช่องเริ่มเข้ามาคุยและกดดัน หรือตัวเองตัดสินใจเอง แต่ชัดเจนก็คือ "ผลกระทบ" ในที่นี้เป็น "เหตุผลทางธุรกิจ"
เหตุผลที่สองคือ "เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย" ก็สะท้อนถึงความไม่พอใจ แรงกดดันจากฝ่ายต่างๆ ทั้งสื่อ นักวิชาการ หน่วยงานราชการ องค์กรต่างๆที่ต่อต้านคอร์รัปชั่น รวมทั้งภาคประชาชน ที่เรียกร้องให้ยุติหน้าที่เนื่องจาก "เหตุผลทางจริยธรรม" ซึ่งเจ้าตัวรับรู้ได้ แต่เหมือนเดิมก็คือ ไม่ได้บ่งบอกว่าตนเองต้องการยุติเอง

"ขอบคุณ"
สรยุทธขอบคุณสามกลุ่ม กลุ่มแรก (ซึ่งสำคัญที่สุดในสายตาเขา) คือ "ครอบครัวช่อง 3" ซึ่งเป็นการเลือกคำที่น่าสนใจ เนื่องจากช่อง 3 เพิ่งประกาศว่านับเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน แสดงว่าสรยุทธให้ความสำคัญกับคำนี้ หรือไม่อย่างนั้น ก็อาจจะยอมรับว่าตนเองเป็นครอบครัวเดียวกัน และพยายามเน้นว่าตนเองเป็นครอบครัวเดียวกันนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไป

อีกสองกลุ่มที่สรยุทธขอบคุณคือ "แฟนข่าว" และ "ทุกกำลังใจ" ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่เป็นแฟนคลับของเขา และคนอื่นๆที่แม้อาจจะไม่ใช่ผู้ชมแต่ส่งกำลังใจมาให้ การขอบคุณสองกลุ่มนี้ สะท้อนให้เห็นว่า เขาขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเท่านั้น ไม่ได้ขอบคุณเลยไปถึงกลุ่มคนอื่นๆที่ "ไม่ได้ให้กำลังใจ" แต่ "กระตุ้นเตือนทางจริยธรรม" ซึ่งจริงๆก็ไม่แปลก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า ตนเองยังไม่ได้ก้าวข้ามไปสู่การยอมรับในความรับผิดชอบเรื่องจริยธรรม

"จนกว่าเราจะพบกันใหม่"
คำพูดนี้สะท้อนว่า เขาตัดสินใจยุติหน้าที่ โดยยังมีความหวังลึกๆว่า สักวันหนึ่งอาจจะได้กลับมาอีก เป็นการประกาศว่าเขายังไม่ยอมแพ้ และให้ทุกคนรอเขา เป็นการลงท้ายในแบบที่ทำให้ตัวเองรู้สึกมีความหวัง ไม่น่าโศกเศร้าหรือดูเป็นผู้แพ้ นัยหนึ่งก็คือ เป็นการอำลาแบบให้กำลังใจตัวเองไปด้วย
"คำที่หายไป"

ทั้งหมด ตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงโพสต์สุดท้าย ยังไม่มีคำเหล่านี้จากสรยุทธ
- "ขอโทษ"
- "เสียใจ"
- "จริยธรรม" / "จรรยาบรรณ"
สะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้ หรืออาจจะคิดถึงแต่เลือกที่จะไม่พูด
สำหรับผม ทั้งหมดนี้ สะท้อนซ้ำๆหลายครั้ง ซึ่งเป็นการยืนยัน ว่าสรยุทธไม่ได้ตัดสินใจยุติการทำหน้าที่ด้วยเหตุผลทางจริยธรรม โดยเฉพาะจรรยาบรรณของการเป็นสื่อมวลชน และไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริงของตนเอง แต่มาจาก "ความจำเป็น" ที่บังคับให้ต้องตัดสินใจ

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ การที่สรยุทธระบุว่า ขอยุติหน้าที่ "พิธีกร" สะท้อนให้เห็นว่า สรยุทธเอง มองตัวเองว่าเป็น "พิธีกร" ไม่ใช่ "คนข่าว" หรือแม้แต่ "กรรมกรข่าว" อย่างที่เคยเรียกตัวเองมาแล้ว แต่ตอนนี้สรยุทธมองว่าตนเองเป็นเพียงคน "ดำเนินรายการ" เท่านั้น (ซึ่งไม่แน่ว่า การมองตัวเองด้วยบทบาทเช่นนี้ จึงทำให้สรยุทธรู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้อง "เคร่ง" เรื่องจริยธรรมของนักข่าวก็เป็นได้)


ขอบคุณข้อมูลจาก FB:  Warat Karuchit