"ไก่อู"ยันไม่ละเลยผลกระทบสิ่งแวดล้อม วอนกลุ่มองค์กรเปิดใจรับฟังด้านอื่น

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th

"พล.ต.สรรเสริญ"ยืนยัน ไม่ละเลยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกรณีออกคำสั่ง หน.คสช.ที่ 9 / 59 ชี้ช่วยย่นเวลาโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น หาผู้ร่วมลงทุนควบคู่ประเมินผลกระทบ วอนกลุ่มองค์กรต่างๆ เปิดใจรับฟังมุมมองด้านด้วย

 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นักวิชาการหรือกลุ่มเอ็นจีโอออกมาพิพากษ์วิจารณ์คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 9 / 2559 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ได้มีออกมาเพื่อละเลยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือนำเรื่องสุขภาพอนามัยประชาชนไปเป็นตัวประกันในการดำเนินโครงการใดๆ ของภาครัฐต่ามที่มีการกล่าวอ้างกัน แต่ คสช.และรัฐบาลมีเจตนาที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและชีวิตความเป้นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ผ่านโครงการเมกโปรเจ็คด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การชลประทาน ที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล หรือการป้องกันสาธารณภัย ที่ต้องทำให้กระบวนการขั้นตอนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วควบคู่กันไปด้วย

 

"จากเดิมที่โครงการขนาดใหญ่ภาครัฐจะต้องเริ่มต้นที่ขั้นตอนการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีหลายโครงการที่มีปัญหาเรื่องความสมบูรณ์ของรายงานจึงใช้เวลานาน ทำให้ไม่สามารถเริ่มดำเนินการในขั้นตอนอื่นต่อไปได้ ทั้งการหาผู้ร่วมลงทุนหรือลงนามในสัญญา ดังนั้นคำสั่งนี้จึงมีขึ้นเพื่อให้ขั้นตอนต่อๆ ไปสามารถทำควบคู่กันไปได้"

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลส่งผลกระทบต่อประเทศไทย รัฐบาลจึงต้องการสร้างความเข้มแข็งจากภายในโดยในช่วงต้นปี 59 จะมุ่งผลสำเร็จของมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กน้อย ส่วนกลางปีถึงปลายปีจะเน้นการลงทุนเมกะโปรเจ็คด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างการลงทุน และเกิดการจ้างงาน ฯลฯ โดยหากโครงการต่างๆ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ก็ยิ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

 

"ท่านนายกฯ และรัฐบาลยินดีรับฟังข้อห่วงใยของกลุ่มองค์กรทั้งหลาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ต้องรับฟังข้อห่วงใยของกลุ่มองค์กรทั้งหลายและทั้งสองฝ่ายก็ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน โดยยืนยันว่าจพไม่ให้การทำ EIA หรือ EHIA เป็นเพียงแค่พิธีกรรมหรือการกระทำให้ครบตามขั้นตอนเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตของประชาชน หากในที่สุดผลการประเมินไม่ผ่าน ก็จะไม่ดำเนินการต่ออย่างแน่นอน ขณะเดียวกันกลุ่มองกรต่างๆ ก็ต้องเข้าใจภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่จำเป็นต้องเร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป้นต้องบริหารโครงการโดยใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในอนาคตอาจเกิดผลกระทบต่อผู้ร่วมลงทุนบ้าง หากผลการประเมินไม่ผ่าน แต่ยืนยันว่าจะไม่เกิดความเสียหาย เพราะยังไม่มีการผูกพันสัญญาใด ๆ

 

รัฐบาลจึงขอวิงวอนให้กลุ่มองค์กรทั้งหลายได้เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริง และเปิดใจรับฟังมุมมองด้านอื่นควบคู่ไปด้วย

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สนช. และ สปท.กำลังเดินหน้าปฎิรูปกระบวนการ EIA และ EHIA ให้มีมาตรฐานการดูแลรัฐฐาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืนต่อไป  "