มโน ? "เสธ.หมึก" เชื่อกองกำลังที่ 3 แค่ชื่อเรียกโก้ๆ - "จิ๋ว" ผิดหวัง "ตระกูลแม้ว" ทำพท.พัง !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์" โว "พล.อ.ชวลิต" เคยช่วยชาติรอดพ้นวิกฤตได้หลายครั้ง ? แฉ "3 ตระกูลทักษิณ" ทำพรรคเพื่อไทยพังยับ โดยเชื่อว่าการออกมาครั้งนี้เพราะเป็นห่วงบ้านเมือง - คำว่ากองกำลังที่ 3 เป็นแค่ชื่อเรียกโก้ๆเท่านั้น ไม่ได้มีเพื่อเตรียมเอาไว้ทำอะไร ...

 

 

วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกมาเคลื่อนไหวจัดตั้งกองกำลังที่ 3 ว่า พล.อ.ชวลิต จ้องมองสถานการณ์การเมืองตลอดเวลา เป็นนายทหารที่เกษียณอายุราชการ แม้จะพูดหรือเสนออะไรไป รัฐบาลคงไม่ฟัง และอาจมองเพียงว่าเป็นนายทหารที่เกษียณแล้วเท่านั้น แต่จากประสบการณ์ที่ทำงาน เคยนำพาบ้านเมืองรอดมาได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่คนไทยจับอาวุธต่อสู้กันเอง ท่านเป็นคนต้นคิดที่เห็นควรออกคำสั่ง 66/23 นิรโทษกรรมให้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

 

 

"พล.อ.ชวลิต มีความเป็นห่วงชาติบ้านเมืองมาก การที่ออกมาแถลงข่าว ไม่ได้ว่าหรือตำหนิใคร เพียงแค่เสนอแนวคิดออกมาก็เพื่อหวังที่รัฐบาลจะฟังบ้างเท่านั้น ไม่ได้คิดจะสร้างความยุ่งยากในบ้านเมืองหรือหวังล้มรัฐบาล ท่านก็อยากให้ประเทศชาติเดินหน้าไปอย่างราบรื่น เดิมทีท่านเข้าไปในพรรคช่วงนั้นเพื่อหวังที่จะไปควบคุมความคิดเพื่อให้เป็นในแนวทางสันติประชาธิปไตย พอเข้าไปจริงๆคุยไม่ได้ ท่านเคยเตือนอย่าเอาคนใน 3 ตระกูล (กลุ่มชิน ดา วงศ์ ซึ่งหมายถึง ชินวัตร,ดามาพงศ์,วงศ์สวัสดิ์) เข้ามาเกี่ยวพันในพรรคมากนัก แต่สุดท้ายนายทักษิณก็ทำไม่ได้ เมื่อเตือนแล้วทำไม่ได้ ท่านก็เลยไม่อยากอยู่ในพรรคนี้อีกแล้ว" พล.ท.พิรัช กล่าว

 

 

พล.ท.พิรัช กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าพล.อ.ชวลิต เคยไปพบปะผู้นำชาวนา เกษตรกรบ่อยครั้งแต่รัฐบาลไม่เคยดูแลชาวนา ชาวไร่อย่างจริงจัง พวกเขาไม่มีการจัดองค์กรอย่างเข้มแข็งที่จะไปต่อสู้กับนายทุนได้จึงถูกเอารัดเอาเปรียบ ท่านก็แนะนำว่าควรออกมาต่อสู้ด้วยตัวเอง โดยมีการรวมตัวกันให้เกิดพลัง เหมือนรูปแบบสหกรณ์ ท่านก็เลยไปแนะนำ ให้ความรู้ให้เกิดการพัฒนา เพราะผลผลิตข้าวชาวนาบ้านเราได้ผลผลิตน้อยกว่าชาวนาเวียดนาม 2-3 เท่าตัว เพื่อให้เกิดการฟื้นฟู มีพัฒนาการ เพราะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วคนจนในบ้านเรามีมากถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด และที่เคยไปพูดไปดูแล 12 ชนเผ่า เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต มอบหมาย ชาวเขา ชนเผ่าเหล่านี้ครั้งหนึ่ง เราเคยร้องขอให้มาร่วมต่อสู้กับ ผคท.แต่หลังจากมีคำสั่ง 66/23 คนกลุ่มนี้ก็กลับไปทำกิน มีบ้าน ปลูกต้นไม้ต้นใหญ่ อย่างเช่นพื้นที่แห่งหนึ่งแถบภูชีฟ้า จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นายทหารมาบอกว่า พื้นที่ที่ทำกินเป็นการบุกรุกพื้นที่ เอาสีมาทาต้นไม้บอกให้เจ้าของมาเคลียร์ ถ้าไม่เคลียร์จะตัด จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น มีการยิงกันบาดเจ็บ ล้มตายก็มี แต่ไม่เคยเป็นข่าว เพราะมีการปิดข่าวเอาไว้ บางพื้นที่ถึงขั้นจะข้ามไปเอาปืนที่ฝั่งลาวเพื่อมาต่อสู้ แต่พวกเราก็ไปกล่อมให้หยุด

 

 

พล.ท.วิรัช กล่าวว่า พวกเราทำงานไม่ใช่แค่ปิดทองหลังพระแต่ยิ่งกว่าเป็นเหมือนปิดทองก้นพระเลย แต่ไม่เคยมีใครพูด เราทำงานกันอยู่ทุกวัน เสียตังค์ตัวเองเพื่อให้บ้านเมืองอยู่อย่าสงบ กองกำลังที่3 เป็นเพียงการติดอาวุธทางความคิดเท่านั้น ไม่ได้มีการให้หยิบจับอาวุธมาทำอะไร เพราะทุกวันนี้บ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟแล้ว มีที่ไหนเหตุทางใต้ ปล่อยให้คนร้ายเข้ามายิง ยึดโรงพยาบาลได้ แล้วทหารที่อยู่ทำอะไร นอนอยู่หรืออย่างไร หรือไม่สะทกสะท้านอะไร มันน่าอาย พวกระดับนายที่อยู่ในกรุงเทพ เคยรู้อะไรบ้างหรือไม่ ทหารตอนนี้คนเลยไม่ค่อยเชื่อมั่น แม่ทัพนายกองต้องคิดยุทธวิธี เคยคิดกันหรือไม่ ความจริงการจะเอาชนะไม่ยาก เพียงแต่ไม่เคยคิดยุทธวิธีกันเลย

 

 

"ทุกวันนี้พล.อ.ชวลิต ยังทำงานด้านช่วยเหลือชาวนา เกษตรกรอยู่ เพียงแต่ท่านออกไปนอกพื้นที่มากไม่ได้ หากออกไปจะถูกนายทหารติดตาม เลยสั่งการให้พวกผมไปทำ คำว่ากองกำลังที่ 3 เป็นพวกชาวนา เกษตรกร ชาวเขา ชาวเผ่า เป็นคำที่เรียกกันโก้ๆเท่านั้น เป็นการให้ความรู้กับประชาชน ไม่ได้มีเพื่อเตรียมเอาไว้ทำอะไร" พล.ท.พิรัช กล่าว

 

 

 

*ข้อมูลจาก "ไทยโพสต์"