ย้อนได้เจ็บ!!! "ยะใส" ย้อน "หญิงหน่อย" ปท.พัง เพราะนักการเมืองห่วย-ทางออกแค่คุณปฏิรูปตัวเอง

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnews.co.th

 

ย้อนได้เจ็บ!!! "สุริยะใส" ย้อนเกล็ด "หญิงหน่อย" จนเลือดซิบ บอกหากรู้ว่าปัญหาประเทศมาจากนักการเมือง คุณก็ควรปฏิรูปตัวเอง-ยอมรับความจริงเสียที แล้วปัญหาวันนี้ไม่ใช่แค่คุยไม่กี่คนจะมีทางออก ทุกอย่างมาไกลกว่าที่คิด เหนืออื่นใดเจ้าภาพพูดคุยต้องมีต้นทุนทางสังคมสูง ไม่ใช่แค่คนในพรรคเพื่อไทยออกมาเชียร์ ไม่เช่นนั้นก็เป็นเรื่องการหาพื้นที่ทางการเมืองธรรมดาๆ
      
      

วานนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แสดงความเห็นกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นัดคุยการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศไทยว่า ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะปัญหาบ้านเมืองซับซ้อนมากกว่าที่คิด ที่สำคัญต้นเหตุของปัญหาส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมของนักการเมืองเป็นสำคัญ ซึ่งคุณหญิงหน่อยคงทราบดี และไม่ควรไปคิดว่านักการเมืองมาคุยกันไม่กี่คนแล้วบ้านเมืองจะมีทางออก เรื่องไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะปัญหาบ้านเมืองมาไกลเกินกว่าจะปล่อยให้บรรดานักการเมืองผูกขาดการตัดสินใจ หรือการแก้ปัญหาตามลำพังอีกต่อไป ฉะนั้น จึงไม่ใช่แค่ความตั้งใจดี แต่คุณหญิงหน่อยต้องเข้าใจต้นเหตุปัญหาอย่างแท้จริงด้วย ที่สำคัญการเกิดเวทีแบบนี้คนเป็นเจ้าภาพก็ต้องมีต้นทุน และได้รับความไว้วางใจจากสังคมวงกว้างด้วย ไม่ใช่มีแค่ คุณวัฒนา เมืองสุข และคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาขานรับอยู่กลุ่มเดียว
      
      

 

 

 

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้สิ่งที่ คุณหญิง สุดารัตน์ และนักการเมืองควรทำที่สุด คือ ต้องปฏิรูปตัวเอง ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และยอมรับความจริงกันให้ได้เสียก่อนว่า การเมืองที่ล้มเหลวที่ผ่านมาเกิดจากความไม่เอาไหนของนักการเมือง และที่สำคัญถ้ายังจะทำงานการเมืองกันต่ออีกต้องกล้าปฏิรูปพรรคการเมืองอย่างจริงจัง อย่าลืมว่าโจทย์ใหญ่ที่สุด และทำให้การรัฐประหารเกิดขึ้นได้ง่าย และบางครั้งรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารได้รับการยอมรับสูงกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็เพราะวิกฤตศรัทธาของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองรุนแรงมากขึ้น ฉะนั้น ถ้ากลุ่มการเมืองจะตั้งวงคุยกันก็ควรเอาเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนว่าจะฟื้นศรัทธาจากประชาชนได้อย่างไร ซึ่งน่าเสียดายในขณะนี้ยังไม่เห็นพรรคการเมืองแม้แต่พรรคเดียวส่งสัญญาณปฏิรูปตัวเองอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้การเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง และนักการเมืองอาจถูกสังคมตั้งคำถาม และหวาดระแวงว่าเป็นแค่เกมอำนาจ และเป็นเรื่องของคนหาพื้นที่ทางการเมืองเท่านั้น