กลัวจนขึ้นสมอง!!! "คสช." แจงไม่มีคำสั่งห้าม "ลิ่วล้อแม้ว"เข้าไทย หากแห่ไปเบิร์ธเดย์ "นายใหญ่"

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnews.co.th

 

 

กลัวจนขึ้นสมอง!!! "คสช." แจงไม่มีคำสั่งห้าม "ลิ่วล้อแม้ว" กลับเข้าไทย หากแห่ไปเบิร์ธเดย์ "นายใหญ่" เป็นข้อมูลจากสื่อเท่านั้น ขณะที่ "นักข่าวประชาไท-กลุ่มปชต.ใหม่" ถูกจับ เป็นเรื่องของตำรวจ เพราะผิด พ.ร.บ.ประชามติ


วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จับกุม 1 นักข่าวประชาไท และ 3 สมาชิกกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ข้อหาผิดมาตรา 61 วรรค 2 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 เนื่องจากพบเอกสารรณรงค์ประชามติภายในรถส่วนตัวว่า เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทั้ง 4 คนเดินทางไปให้กำลังใจกลุ่มบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบถามข้อมูลที่ สภ.บ้านโป่ง แต่ปรากฏว่าในยานพาหนะที่ทั้ง 4 คนใช้เดินทางไปนั้น พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปลุกระดมชี้นำเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องควบคุมตัวไว้ ทั้งนี้ทราบว่า 1 ใน 4 คน มีบุคคลที่เป็นผู้สื่อข่าวด้วย

 

 

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า คสช. เตือนแกนนำพรรคเพื่อไทยที่จะไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกงว่า ถ้าเดินเดินทางออกไปจำนวนมากอาจจะไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยนั้น โฆษก คสช. กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลจากสื่อมวลชนเท่านั้น ในส่วนของทีมโฆษก คสช.ยังไม่เห็นรายละเอียดหรือคำสั่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย โดยขณะนี้คสช.ไม่ได้มีคำสั่งใดๆ ห้ามคนเดินทางออกนอกประเทศแล้ว แต่ที่มีอยู่คือเงื่อนไขทางกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้ที่มีคดีความทางศาลอยู่ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการใดๆ ในตอนนี้ คสช.อยากให้มองในภาพรวม ซึ่งทุกอย่าง คสช.ยังคงใช้แนวทางเดิมคือขอความร่วมมือ ทั้งนี้การกระทำใดๆ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่ยังมีเรื่องของความเหมาะสม และความรู้สึกเกี่ยวข้องอยู่ ดังนั้นการขอให้เป็นไปตามความเหมาะสม


 

 

 

 

ขณะที่ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายมุม ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีข่าวสารบ่งชี้ว่า จะมีคนเดินทางออกนอกประเทศไปในลักษณะหมู่คณะใหญ่ มีเพียงการพูดกันผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่ายังไม่ชัดเจน ซึ่งคสช.ไม่สามารถไปตัดสินใจจากคำพูดคุยของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ คสช.ดูจากพฤติกรรม และการกระทำที่เป็นเรื่องความเหมาะสมของกฎหมาย และความเหมาะสมทางสังคม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่เป็นสาระสำคัญที่ คสช.จะต้องนำมาตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น