"สนธิญาณ" ชี้! ชะตากรรม "ทักษิณ"วันนี้ เพราะใช้อำนาจการเมืองมิชอบ-ทำร้ายบ้านเมือง วันเกิดปีนี้ควรเริ่ม"หยุด" เพื่อละวางกิเลสเสียที

< รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ออกอากาศทางช่อง ทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

สถาพร : วันนี้วันที่ 26 ก.ค. 2559 ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 66 ปีที่แล้ว ก็เป็นวันที่เกิดขึ้นของอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่ตอนนี้ต้องระเห็จระเหเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศครับ

 

สนธิญาณ : ก็ไม่รู้ว่าควรเป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจหรือต้องรู้สึกอย่างไร สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการที่เวลาถึงวันเกิดครั้งหนึ่งก็มีคนพูดถึงและระลึกถึง ด้านหนึ่งก็มีชื่นชมนิยมยินดีกันไป แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องใช้คำว่าก่นด่าสาปแช่งกันไปเลยก็มี ถือว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ หมายความว่ามนุษย์ปกติหรือคนปกติทั่วไป ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถมีวิถีชีวิตแบบนี้ได้ เหมือนเราต้องเอามาพูดถึงในแง่ที่มนุษย์จะต้องคิดและเป็นบทเรียนในแง่การมีชีวิตอยู่ ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร และควรจะอยู่อย่างไรกันแน่ คุณทักษิณเหตุที่คนที่หยิบยกเอามาพูดถึงถ้ามีวิถีชีวิตในแง่ของพ่อค้าเพียงอย่างเดียว ก็จะมีชีวิตไปอีกอย่าง วันนี้ก็เป็นพ่อค้าขายบริษัทร่ำรวยคนอาจจะวิพากษ์วิจารณ์บ้างว่าค้าขายเอาเปรียบรัฐทำสัมปทานอย่างนู้นนี้ แต่มีวิถีชีวิตที่ธรรมดา เหมือนปกติคนอื่น ๆ นั่นก็คือการได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าในวันเกิด ได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่พึงจะได้ทำในครอบครัว แต่วันนี้ต้องไปอยู่ประเทศอังกฤษ คนในครอบครัวบางส่วนบางคนก็ได้อยู่ร่วม บางคนก็ไม่ได้อยู่เหตุผลก็เพราะได้เข้ามาเล่นการเมือง และได้สร้างในสิ่งที่เรียกว่า กรรม ให้ประชาชนต้องแบกรับ คุณทักษิณจะระลึกนึกถึงอย่างไรก็ตามแต่ ไม่ใช่คนที่เข้ามาสู่การเมืองแล้วเสียสละให้กับพี่น้องประชาชน เพราะคุณทักษิณไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเสียสละให้กับประชาชนและประเทศชาติ แต่เริ่มต้นด้วยนโยบายที่ดูเหมือนว่าให้ประชาชนได้รับประโยชน์ แท้ที่จริงแล้วก็เอาเงินของประชาชนมาสร้างนโยบายเหล่านั้นและหลายนโยบายเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินกับประเทศชาติ เพียงเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ทางการเมือง เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะให้กับประชาชน หยิบยกมาพูดถึงวันนี้มีผู้คนทั้งในโลกโซเชียลและสื่อต่าง ๆ ก็จะพูดถึงวันเกิดของคุณทักษิณที่ผมบอกว่าไม่ธรรม ซึ่งคนธรรมดาคนหนึ่งเมื่อถึงวันเกิดจะพูดจากล่าวขานกันทั้งประเทศ แต่เป็นบอกแล้วว่าทั้งสองทาง เราจะต้องย้อนรอยว่าที่ผมหยิบยกมาพูดถึงวันนี้ก็เพื่อให้เห็นสิ่งที่เรียกว่า กรรม กรรมที่ทำไว้สำหรับบ้านเมืองและคุณทักษิณไม่รู้จักหยุด อันนี้เป็นประเด็นสำคัญ การไม่รู้จักหยุด หรือการไม่ยอมรับในผลกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้ง ๆ ที่คุณทักษิณได้พยายามนำเสนอแนวทางธรรมะ บ่งบอกถึงการนั่งสมาธิ แสดงออกถึงว่าเป็นผู้สนใจใฝ่ธรรม แต่ไม่ยอมรับกฎแห่งกรรมและผลที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อไม่ยอมรับก็ใช้สิ่งที่ตัวเองมีคือเงินทองดำเนินการกิจกรรมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายเสียหาย และถึงขั้นทำร้ายเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเองที่เห็นชัดเจน แสดงออกอย่างชัดเจนก็คือ ความพยายามในการที่จะกลับมายังประเทศไทย โดยไม่ต้องรับโทษที่ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้ว รวมทั้งคดีความอื่น ๆ ที่คาราคาซังอยู่ในศาล ซึ่งทั้งหมดมาจากผลพวงของการที่คุณทักษิณกระโจนเข้าสู่การเมืองและใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ดังนั้นสิ่งที่กำลังเดินและเป็นอยู่แบบนี้นั้น เป้าหมายคือการที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง ผมเรียนย้ำยืนยันว่า ถ้าคุณทักษิณไม่มีนโยบายแบบนี้ความคิดแบบนี้ คุณทักษิณจะหยุด แค่คุณทักษิณหยุดองคาพยพต่าง ๆ ที่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายจะจบทันที ถ้าคุณทักษิณประกาศว่า หยุดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป พรรคเพื่อไทยจะล่มสลาย แตกกระจายทันทีที่ไม่มีเงินของคุณทักษิณเข้ามาหล่อเลี้ยง นปช. โครงข่ายการเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่อยู่ภายใต้สังกัดคุณทักษิณจะยุติหมดพลังอย่างทันที อาจจะมีคนพยายามที่จะดันจะเคลื่อนไหวนำเสนออะไรต่อ แต่ก็ไปไม่ได้เพราะขาดเงิน ทุกคนที่เป็นอยู่ก็เพราะคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่รู้จักหยุด เพราะฉะนั้นวันนี้มีคนหนึ่งที่มีอำนาจทางการเมือง ได้ประกาศในการที่จะเดินหน้าประเทศไทย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และในการเดินหน้าประเทศไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชัดเจนว่า เป็นไปเพื่อการหยุดคุณทักษิณ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ก่อนหน้านี้ก็พูดไม่ชัดเจน พูดว่าคนที่อยู่ต่างประเทศ คนที่กระทำความผิดแต่ไม่ยอมกลับมารับโทษ จนท้ายที่สุดต้องระบุชื่อออกมา ชัดเจนว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ยังเดินหน้าในแนวทางของตัวเองที่ยังเดินหน้าอยู่ นั่นก็คือขับเคลื่อนประเทศไปภายใต้กรอบของกฎหมายและภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่อ.มีชัยได้ร่างขึ้นและจะนำเสนอประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม ถ้าเดินไปอย่างนี้ นั่นก็หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์หรือเครือข่ายของกองทัพก็จะมีพลังในการที่จะจัดการกับบ้านเมืองให้ไปในแนวทางที่ไม่ให้คุณทักษิณสามารถใช้สิ่งที่ตัวเองมีทำร้ายบ้างเมืองไปได้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งจะทำให้บรรดาข้าราชการทั้งหลายที่ยังรอยังฝันอยู่ลมๆแล้งๆว่า ทักษิณจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่งต้องหดหัวหรือไม่ก็ต้องเลิกที่จะเลือกข้างเป็นพวกทักษิณ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากการรัฐประหารก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ เอาจริง ถ้ายาวไปอีก 56 ปีแล้วเสร็จแน่ บรรดานายทุนทั้งหลายที่เคยเป็นเครือข่ายจากการสนับสนุน การเอื้อเฟื้อ การมีอำนาจของคุณทักษิณก็ต้องคิดพิจารณาและหยุดไตร่ตรองว่าไปต่อไม่ได้ ขบวนการการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทักษิณเหมือนที่ผมเรียนไปนั่นไม่ต้องพูดถึงซึ่งจะจบเห่ เพราะฉะนั้น วันเกิดของทักษิณกับวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญซึ่งในวันนี้กระแสเสียงของผู้คนฝ่ายที่สนับสนุนคุณทักษิณกระหึ่มก้อง วันนี้ลูกสาวจะเฟซบุ๊กไลฟ์ตอนบ่าย2 มาจากอังกฤษเพื่อที่จะเชื่อมโยงศรัทธาของผู้คนเพื่อจะทำให้มีบทบาทของคุณทักษิณต่อไป ทั้งสิ้นก็เพื่อการกลับมามีอำนาจ เพื่อกลับมาสร้างปัญหาให้บ้านเมืองต่อไป แต่ถ้าผมเรียนย้ำนะครับ ไม่ได้เอามาผูกโยงกันเฉย ๆ ในวันที่ 7 สิงหาคม ถ้าประชามติผ่านอย่างท่วมท้น ขีดเส้นใต้ไว้ได้เลยครับว่า ตั้งแต่วันเกิดของคุณทักษิณวันนี้เป็นต้นไป และนับไปตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ถึงกล้าที่จะหมดยุคของทักษิณ ความพยายามใด ๆ ที่จะทำอะไรลงไปก็จะมีแต่ความถดถอย เพราะฉะนั้นอย่างเดียวจริง ๆ ที่จะช่วยคุณทักษิณได้ คือธรรมะของพระพุทธองค์ที่คุณทักษิณชอบเอามาโพสต์โชว์อ้างเรื่อย ๆ ทั้งการไหว้พระ โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ อันนี้ล่ะครับจะช่วยได้ มีสติเมื่อไหร่ การนั่งสมาธิที่มาโพสต์โชว์ ก็จะส่งผลอย่างเป็นความจริง เพราะสติทำให้คิดว่าควรไม่ควร อะไรที่ควรจะยับยั้งสำนึก อะไรที่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บทุกข์ใจ และครอบครัวทุกใจ สำหรับผมนะครับไหน ๆ แล้ว ไม่ได้มีความโกรธเคืองใด ๆ เป็นการส่วนตัว เนื่องจากว่า เขายังมีวิถีในการที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นไปในแนวทางที่เขาต้องการปั่นป่วนมีปัญหาได้ ก็อยากจะขออวยพรวันเกิดว่าให้ดวงตาเห็นธรรม นี่คือคำอวยพรที่ผมอยากจะมอบให้คุณทักษิณ ให้ระลึกตรึกตรอง ได้เห็นกับบาปเวรที่ได้ก่อให้คนไทยและประเทศชาติ และนำพาไปสู่การหยุด เท่านี้ล่ะครับ ชีวิตก็จะมีความสุขตั้งแต่วันเกิดนี้เป็นต้นไป