เอ้า...นักประชาธิปไตยจ๋าว่าไง!!! สื่อยุ่นชี้นักธุรกิจไทย-เทศ ชอบใจ "ลุงตู่" จัดการทุกอย่างดี...ด้วยสาเหตุแบบนี้...รู้สึกปรี๊ดมั้ย???

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

เอ้า...นักประชาธิปไตยจ๋าว่าไง...เมื่อสื่อดังเมืองซามูไรเผยแพร่บทความซึ่งเขียนถึงรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ "บิ๊กตู่" โดยระบุว่า รัฐบาลคสช. ได้รับการยอมรับนับถือในระดับน่าพอใจ และนักธุรกิจไทย-เทศ ชอบใจ "ลุงตู่" ที่เป็นคนตรงไปตรงมา เดินหน้านโยบายหลายด้าน ไม่เฉพาะแต่เรื่องการเมือง ทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนเชื่อมั่น เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า แล้วฝ่ายที่อ้างตัวว่านักประชาธิปไตย-ต่อต้าน คสช. ล่ะรู้สึกเช่นไร...ปรี๊ดมั้ย...เพราะพูดกันตามตรง รัฐบาลจากการเลือกตั้ง...ประชาธิปไตยแบบฉาบฉวย...แทบไม่เคยได้รับคำชมเช่นนี้ (อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews)

 

 

วันนี้ (3 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นิตยสาร "นิกเกอิ เอเชียน รีวิว" ได้เผยแพร่บทความของ ปีเตอร์ แจนเซน ซึ่งได้เขียนถึงรัฐบาลไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าได้รับการยอมรับนับถือในระดับหนึ่งจากบรรดานักธุรกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจอยู่ในไทย แม้จะต้องรับบทหนักในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซึ่งนักธุรกิจหลายคน เช่น ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย หรือผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มซิตี้ ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนตรงไปตรงมา มุ่งดำเนินนโยบายหลายด้าน ไม่เฉพาะแต่เรื่องการเมือง ทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจ การผ่อนคลายด้านวีซ่า แรงจูงใจด้านภาษี การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การลงทุนด้านสาธารณูปโภค การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการปราบปรามคอร์รัปชัน

 

 

 

 

 

 

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณนักธุรกิจทุกคนที่เข้าใจการทำงานของรัฐบาล และย้ำว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางประชารัฐ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ภาคเอกชนและประชาชนเป็นแกนหลัก และภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ เพียงแค่บอกมายังรัฐบาล ทั้งนี้ แนวโน้มของเศรษฐกิจในปีนี้เริ่มดีขึ้น โดยไตรมาสแรกของปี 59 ขยายตัวร้อยละ 3.2 เร่งขึ้นจากร้อยละ 2.8 ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส และคาดว่าไตรมาสที่ 2 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่าไตรมาสแรก

 


"หากคนในประเทศไม่มองแต่เรื่องของตัวเองอย่างเดียว แต่มองเรื่องผลประโยชน์ชาติเป็นหลักและร่วมมือกัน เชื่อว่าประเทศจะไปรอด และมีศักยภาพแข่งขันกับคนอื่น ๆ ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐ ส่วนภาคการท่องเที่ยวและการผลิตขยายตัวได้ดี ภาคการเกษตรก็กลับมาดีขึ้นหลังจากผ่านพ้นภัยแล้ง ดังนั้น เศรษฐกิจโดยรวมของไทยในปีนี้จะดีขึ้น" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว