อย่าบิดเบือนเกินจริง!! "ไก่อู" เตือนสื่อเลือกข้างหยุดกระพือเหตุบึ้มเกินจริง เพราะเข้าทางผู้ก่อการ-ขยายความกลัวแบบผิด ๆ

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

เตือนกันไว้ก่อน!! "ไก่อู" เตือนสื่อเลือกข้างที่มักยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐฯ ต้องหยุดขยายเหตุบึ้มภาคใต้แบบเกินจริง เพราะพวกคุณอาจเป็นแนวร่วมมุมกลับของผู้ก่อการ และขยายความกลัวสู่ประชาชนแบบบิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมยันเพจที่อ้างชื่อนายกฯ ที่เผยแพร่ในโซเชียลฯ เป็นของปลอม เพราะนายกฯ ไม่เคยใช้ facebook ดังนั้น หากใครได้รับการส่งต่อ ก็ไม่ควรกระจายออกไปอีก...ทุกอย่างมันจงใจบิดเบือนสถานการณ์


      
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์บึ้มภาคใต้ล่าสุดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์การก่อความวุ่นวายในช่วงวันที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด และฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ร่วมมือกันตรวจตรา และกวดขันเรื่องความปลอดภัยในทุกพื้นที่ และขอให้ถือปฏิบัติต่อไป
      
      

“ท่านนายกฯ ขอทุกหน่วยให้ถือเอาสวัสดิภาพของทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินไทย รวมทั้งความสงบเรียบร้อยของชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ต้องร่วมกันปกป้องดูแล มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ความเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบอีกครั้งว่า ความคิดดีตั้งใจดีย่อมเอาชนะการกระทำที่เลวร้ายทั้งปวง”
      
      
โฆษกรัฐบาล ยังกล่าวด้วยว่า อยากฝากไปถึงสื่อกระแสหลักที่โหมรายงานข่าวเกาะติด ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนอาจสร้างกระแสความวิตกเกินกว่าเหตุในสังคม ว่า พฤติกรรมเช่นนี้อาจกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับให้แก่ผู้ก่อเหตุร้าย ที่ต้องการสร้างความวุ่นวายในสังคม อยากให้สื่อรายงานข่าวอย่างสมดุล และเหมาะสม รวมถึงคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาต่อประเทศโดยรวม โดยอาจเรียนรู้จากประสบการณ์การกระทำในอดีต เช่น การเกาะติดรายงานข่าวอาจารย์ยิงตัวเองที่ผ่านมา มาเป็นแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เพียงใด แค่ไหน
      
      

สำหรับสื่อมวลชนบางกลุ่ม บางสังกัด ที่มีพฤติกรรมเลือกข้าง และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ในประเทศเกินเลยจากสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะสะท้อนให้เห็นต้นตอความคิดและจิตใจ ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งรายงานข่าวที่ไร้ความรับผิดชอบเหล่านั้น อาจส่งผลให้ชาวต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้ใกล้ชิดกับข้อเท็จจริงเกิดความวิตกกังวล จนส่งผลต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผลเสียจะตกแก่ประเทศชาติและประชาชนในภาพรวม
      
      


 

 


 

 

 

“รัฐบาลไม่เคยให้ร้าย หรือเลือกข้างเลือกฝ่าย และพยายามอดกลั้นต่อพฤติกรรมหมิ่นเหม่เหล่านี้มาโดยตลอด แต่หากพฤติกรรมล้ำเส้นเหล่านี้กระทบต่อสวัสดิภาพและความสงบสุขของบ้านเมืองอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้องคงต้องพิจารณาดำเนินการตามกรอบกฎหมาย เพื่อดำรงความสงบสุขของส่วนรวม" โฆษกรัฐบาล กล่าว
      


นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริญ ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้มีเพจแพร่กระจายในโซเชียลฯ อ้างชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเนื้อหาเขียนพาดพิงถึงหลายหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ระเบิดป่วนเมืองที่เกิดขึ้น โดยตนขอยืนยันว่า เพจดังกล่าวไม่ใช่เพจของนายกฯ เพราะนายกฯ ไม่เคยใช้ facebook และจะไม่ใช้ช่องทางการสื่อสารเช่นนี้ในการอธิบายความเรื่องสำคัญกับพี่น้องประชาชน

 

หากประชาชนท่านใด ได้รับการส่งต่อข้อความดังกล่าว ขอให้ยุติการเผยแพร่ ไม่ควรกระจายต่อไปให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ประเทศในภาพรวม และเชื่อว่าคนที่เขียนเพจดังกล่าว คงวิเคราะห์ไปตามความรู้สึกและความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า ดังนั้น ขอยืนยันอีกครั้งว่า ข้อมูลที่ปรากฎไม่ใช่ความคิดเห็นของ นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว