ยกนิ้วโป้งเลย!!  "บิ๊กตู่" ลั่นชัดปฏิรูปการเมืองต้องให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง เพื่อเปิดทางคนรุ่นใหม่

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ (30 ส.ค.)   เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปนักการเมืองและพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชนไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจนายทุนพรรคว่า  มีหลายอย่างขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำกฎหมายปฏิรูปพรรคการเมือง โดยฝ่ายกฎหมาย สปท.-สนช.-กรธ. ต้องพูดคุยกัน   ว่าเรื่องพรรคการเมืองจะทำอย่างไร  ทั้งนี้ต้องยึดโยงกับกับคำว่าประชาธิปไตยสากล  แต่ของเรามันหลุดจากกรอบไปเยอะ  สิ่งสำคัญเราจะทำอย่างไรจะได้คนดีเข้ามาสู่ระบบการเมือง  จะไปออกระเบียบอะไรมันก็ไม่ได้อีกถ้าคนไม่ดี    ดังนั้นต้อง มีระบบคัดกรองที่ดี  วันนี้รัฐธรรมนูญร่างมาเพื่อให้คนที่ไม่มีปัญหาเข้ามา  ยังโดนต่อต้านเยอะแยะไปหมด
        

" ผมไม่รู้เหมือนกันว่าการเป็นพรรคการเมือง  นักการเมืองต้องใช้เงินอะไรมากน้อยขนาดไหน  เพราะวันนี้ผมไม่ได้ใช้เงินเหล่านั้นเลยที่จะทำให้คนต้องมารัก   แต่เขาอาจจำเป็นหรือไม่ในการที่ต้องให้เงินของ ส.ส.ไปดูและประชาชนที่เขาบอกว่าต้องมี  แล้วมาจากไหน วันนี้นักธุรกิจใหญ่ๆ ก็ต้องอยู่ในประเทศไทย  ก็ร่วมมือกับผมดีในการทำงาน  ไม่เห็นเขาต้องเสียสตางค์ให้ผมสักคน  ไม่ต้องบำรุงพรรคผม   ผมต้องไปดูกฎหมายการบำรุงพรรคอะไรทำนองนี้   ให้เขาดูหมดทั้งหมดทั้งบุคคลการเข้าสู่การเมือง  ดูไปถึงบทลงโทษด้วย  การปฏิรูปการเมืองต้องทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง อย่างน้อยเป็นกติกาที่จะทำให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในการเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า แล้วกฎหมายที่จะออกมาจะสามารถดึงคนที่ดีๆ  หรือนักการเมืองสายเลือดใหม่เข้ามาได้อย่างไร   พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  มีใครไหมล่ะ  ไปหามาสิ ที่ผมเป็นรัฐบาลมา 2 ปี หาคนใหม่ๆ เข้ามาไม่มีใครเข้ามากับผมสักคน    อาจจะไม่เฉพาะกลัวว่าเป็นรัฐบาลรัฐประหารหรอก   แต่เขาไม่อยากให้ประวัติมาเสียหายกับการที่ไปเป็นคนสาธารณะ  ซึ่งบางเรื่องมันก็ก้าวล่วงชีวิตส่วนตัวเขามากเกินไป  เป็นปัญหาสำคัญของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่เข้ามา   เรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินเขาไม่ตั้งใจจะโกง    ทรัพย์สินเขามีอยู่แล้วแต่ต้องมาตีแผ่ให้คนสงสัยเขาก็รับไม่ได้ถึงไม่อยากเข้ามา   แต่เข้ามาอย่างไรก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน บางอันเป็นกรรมการทางธุรกิจนี่โน่นต้องยกเลิกหมดเลยเพราะมันผลประโยชน์ทับซ้อนแล้วต้องมารับเงินเดือนนิดหน่อย    เขาไม่อยากมาหรอก   คือเขาไม่อยากมีประวัติใหม่ ไม่ต้องการจะโกงแล้วต้องมาถูกตีแผ่    และการบริหารเชิงรุกของเขามันทำไม่ได้นั่นแหละมันติดขัดที่คนรุ่นใหม่ไม่กล้าเข้ามาหรอก คนรุ่นใหม่เขาตั้งใจดี ที่ตนขับเคลื่อนอยู่  ก็ได้ความคิดจากคนเหล่านี้  แต่ถามว่ามาเป็นไหมไม่เป็นหรอก ถามว่าเป็น  ส.ส.ไหม ไม่สมัคร  เขาก็ไม่ชอบไม่มีใครชอบหรอก ผมก็ไม่ชอบ แต่ผมจำเป็นต้องทำตอนนี้แค่นั้น  ตน ขอให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีไม่มีใครเข้ามาสักคน