เข้าตัวทั้งนั้น!!! สังคมสวน "ตู่สู้แล้วรวย" ที่เยาะ"นายกฯ" ชาติหน้าก็ปราบโกงไม่ได้ เพราะนกม.ชั่วช่วยเหลือกัน...ดูพ.ร.บ.ลักหลับนั่นไง

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

เข้าตัวทั้งนั้น!!! สังคมสวน "ตู่สู้แล้วรวย" หลังออกมาเย้ย "นายกฯ" ว่าตายแล้วเกิดใหม่ชาติหน้าก็ปราบโกงไม่ได้ โดยระบุเพราะนักการเมืองชั่วช่วยเหลือกันจึงทำให้เรื่องมันยากเย็นแสนเข็ญ...ดูอย่างพ.ร.บ.ลักหลับตอนตี 4 นั่นยังไง

 


วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊คไลฟ์ ลงบนเพจของตน "Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์" โดยแสดงความสบประมาทต่อคำประกาศปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ที่ประกาศวานนี้ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นต้องหมดไปจากสังคมไทยก่อนที่จะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ต่อให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 20 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติหรือเป็นไปจนตายแล้วเกิดใหม่ชาติหน้าก็ไม่สามารถที่จะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไปได้ หากว่าไม่มีการบูรณาการองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต รวมทั้งการปราบปรามการทุจริตภายในรัฐบาลนี้ให้มีความเสมอภาค ยุติธรรมและปราบปรามกันอย่างจริงจังถ้วนหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

 

นายจตุพร ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรใช้อำนาจตาม ม. 44 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักร ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 แก้ไขการอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ทำหน้าที่อย่างเท่าเทียม เสมอภาค และประชาชนมีความน่าเชื่อถือ กระบวนการปราบทุจริตต้องกล้าเปลี่ยนแปลงองค์กรเกี่ยวข้องการปราบทุจริต และเริ่มต้นเล่นงานคนทุจริตในรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อแสดงความจริงใจของพล.อ.ประยุทธ์  หากไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจในองค์กรปราบทุจริตแล้ว จนถึงชาติหน้าการโกงยังมีอยู่

 

“ประเทศไม่สามารถปราบการทุจริตให้สิ้นซากได้ เพราะองค์กรทำหน้าที่ปราบไม่ได้ยึดหลักความเสมอภาค เท่าเทียม แม้ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นนายกรัฐมนตรีไปตลอดชาติก็ปราบทุจริตไม่ได้ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงกระบวนการตรวจสอบ ปราบทุจริตในองค์กร ป.ป.ช. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รวมทั้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เราต้องยอมรับกันว่า จุดตั้งต้นในองค์กรปราบทุจริตเหล่านี้ มีหลายเรื่องที่ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ยิ่งผู้นำเครือข่ายต่อต้านการทุจริตต้องแสดงความจริงใจในกรณีเกี่ยวพันกับนำชิ้นส่วนรถโตโยตาพีอุสเข้าประเทศโดยสำแดงภาษีเท็จ เกิดความเสียหาต่อประเทศกว่าหมื่นล้านบาท หากมีความจริงใจในการปราบทุจริตอย่างจริงใจแล้ว ต้องไม่ร่วมเป็นคณะกรรมการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งกำลังดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องอยู่"


นายจตุพร กล่าวต่อไปว่าสิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ ที่ผ่านมาการยกคำร้องของ ป.ป.ช. เป็นเรื่องน่ากลัวกว่าการสั่งฟ้อง เพราะไม่มีกระบวนใดเข้าไปตรวจสอบถ่วงดุลกรณียกคำร้อง ดังนั้น อำนาจยกคำร้องของ ป.ป.ช. จึงเท่ากับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเด็ดขาดสิ้นสุด ไร้การถ่วงดุล การดำเนินการตรวจสอบทุจริตไม่กำหนดเงื่อนเวลาในการรับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบคดีจนถึงสิ้นสุดนั้น จึงกลายเป็นช่องว่างให้ดึงคดีจนขาดอายุความ หรือประชาชนลืม แล้วทยอยยกคำร้อง เช่น กรณีคดีปรส.ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ รวมทั้งอีกหลายกรณีที่เกิดการทุจริตแบบสร้างความคลางแคลงใจให้ประชาชน แต่ ป.ป.ช.ไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบโดยฉับพลัน อาทิคดีทุจริตจัดซื้อเรือเหาะก็ไม่ผิด หรือเครื่องจีที 200 กระทั่งกรณีการสร้างโรงพักตำรวจที่เห็นกันอย่างชัดเจนก็ไม่รีบดำเนินการ แต่กลับนำคดีที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายหนึ่งที่มีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันมาจัดการเล่นงานเร่งด่วน จึงแสดงถึงความไม่เสมอภาคในการทำหน้าที่

 

"การปราบทุจริต สิ่งแรกควรเริ่มต้นด้วยการเขียนในร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. เพื่อเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการสั่งฟ้อง หรือไม่สั่งฟ้องของ ป.ป.ช. ก่อน โดยให้สำนักอัยการสูงสุด (อสส.) เข้ามาถ่วงดุลอำนาจ ไม่เช่นนั้น ป.ป.ช. จะยิ่งขยายอำนาจออกไปเรื่อยๆ แต่ไม่รับผิดชอบในเรื่องที่ประชาชนคลางแคลงใจในความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ต้องเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่ การเปิดไฟไล่โกง ต้องเริ่มต้นด้วยตัวเองไม่โกง ไร้มลทินทุจริต เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จริงใจกับการปราบทุจริตแล้ว ควรให้ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองแสดงบัญชีทรัพย์สินตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับหน้าที่ เพราะคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการจัดงบประมาณ และให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ทุกปีอย่างเปิดเผย รวมถึงองค์กรอิสระทุกองค์กรที่ทำหน้าที่ปราบการทุจริตยิ่งต้องแสดงให้ชัดเจนที่สุด ก่อนไปปราบโกงคนอื่น" นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย

 

อย่างไรก็ตาม หลังนายจตุพร ไลฟ์จบ สังคมสวนกลับทันทีว่า ที่เรื่องนี้มันยากเย็น เพราะนักการเมืองชั่วช่วยเหลือปกปิดความผิดให้แก่กัน...ดูอย่างจะออกพ.ร.บ.ลักหลับตอนตี 4 นั่นประไร