ระทึกรอบใหม่!!! "วิษณุ" แง้มชื่อขรก.เอี่ยวโกงล็อต 8 มีกว่า 80 ราย ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจากท้องถิ่น

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

ระทึกรอบใหม่!!! "วิษณุ" แง้มชื่อข้าราชการเอี่ยวโกงล็อต 8 มีกว่า 80 ราย มาจากท้องถิ่นทั้งสิ้น แนะต่อจากนี้ต้องยึดหลักสุจริตเป็นเกราะกำบัง เพราะกฎหมายใหม่เข้มงวดมาก

 


วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับหน่วยตรวจสอบ และปาฐกถาเรื่องการกระจายอำนาจกับการตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม  โดยนายวิษณุ กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การที่องค์กรท้องถิ่นได้รับคำสั่งจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ตนเป็นห่วงกรณีของผู้บริหารงานไม่มีกฎหมายให้อำนาจแต่นึกว่าตัวเองมีอำนาจ จึงทำให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวนไม่น้อยทำผิด ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกยุจากลูกน้องให้ทำ และบางครั้งทำไปโดยอำนาจแต่กระโดดข้ามขั้นตอน  ขณะที่บางคนยืนยันว่าไม่ผิดจนนำไปสู่บางองค์กรในการชี้ขาด ส่วนบางพวกทำผิดโดยสุจริต ทั้งนี้รัฐบาลจะเน้นการป้องกันการทุจริต ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ ก่อนนำไปสู่การปราบปรามที่อาจใช้เวลายาวนาน 

 

ทั้งนี้ 2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้ตรวจสอบ และมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาซึ่งขณะนี้มีข้าราชการกว่า 300 คน ทั้งระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ข้าราชการระดับซี 8 ซี 7 ซี 6 นายกอบจ. และนายกอบต. ถูกสั่งพักงานหรือให้ออก และล่าสุดจะมีรายชื่อข้าราชการที่ถูกตรวจสอบออกมาอีกเกือบ 80 คนซึ่งมาจากองค์กรท้องถิ่นทั้งสิ้น โดยจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประพฤติทุจริตมิชอบ เป็นเรื่องความไม่แน่ใจหรือไม่รู้จริงในอำนาจหน้าที่ของตัว ซึ่งองค์กรท้องถิ่นในบางจังหวัดระบุว่า เป็นเพราะผู้ว่าราชการจังหวัดขอความร่วมมือ เมื่อท้องถิ่นร่วมมือกลับเป็นฝ่ายผิด แต่ผู้ว่าฯไม่ผิด เพราะผู้ว่าฯ อ้างว่าแค่ขอความร่วมมือ แต่ท้องถิ่นเป็นผู้ทำ 

 

 

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ต่อไปจะออก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ร.บ.วินัยการเงินและการคลังของรัฐ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งจะใช้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน ตั้งแต่คนต้นคิดจนมาถึงคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ฯ มีความเข้มงวดมาก ต่อไปเอาโทรศัพท์ชาร์ตไฟหลวงก็ผิด นำซองตราครุฑใส่เงินก็ผิด ถ้าถามว่าแล้วจะอยู่อย่างไร ตนคิดว่าอยู่ได้คือ 1.วิธีปฏิบัติอื่นมี 2.นำหลักมาขู่ แต่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้อาจจัดทำคู่มือปฏิบัติงานว่าสิ่งใดทำได้หรือทำไม่ได้ และควรมีกรรมการชำนาญการในเรื่องนี้ ซึ่งอาจนำสำนักงานตรวจแผ่นดิน(สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงมหาดไทย ครู และองค์กรท้องถิ่น ตอบข้อหารือว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่  แต่ขอแนะนำให้ยึดหลักสุจริตเป็นเกราะกำบัง และต้องมีคำตอบว่าทำไปทำไม หากทำไม่ได้ก็อย่าทำ ส่วนการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดก่อนการเลือกตั้งระดับชาติหรือไม่นั้น ตนยังตอบไม่ได้ ต้องให้คสช.เป็นผู้ตอบ ซึ่งไม่ว่าจะจัดอะไรก่อนหรือหลัง ก็มีเวลาเหลือไม่มาก

 

 

นอกจากนี้ รองนายกฯ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายชื่อข้าราชการเกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ล็อตที่ 8 จำนวน 80 คน ตามที่ ศอตช.ส่งมาให้ว่า ขอให้รายชื่อออกมาก่อนจึงจะอธิบาย โดยขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าบุคคลที่มีรายชื่อยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ มีการเปลี่ยนชื่อหรือตำแหน่งถูกต้องหรือไม่ เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว จะส่งให้หัวหน้าคสช.ลงนาม ซึ่งคาดว่ารายชื่อจะออกมาในสัปดาห์หน้า