บ่เคยยั่น!!! "บิ๊กตู่" ลั่นยิ่งถูกด่า...ยิ่งสู้ ไม่มีถอย..รับได้-ย้ำปฏิรูปต้องเริ่มที่ใจตัวเองก่อน

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

บ่เคยยั่น!!! "บิ๊กตู่" ลั่นยิ่งถูกด่า...ยิ่งสู้ ไม่มีถอย..รับได้-ย้ำปฏิรูปต้องเริ่มที่ใจตัวเองก่อน ต้องทำวันนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะปฎิรูปไปทำไม ประเทศจำเป็นต้องฟื้นฟูทุกด้าน


      
วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ และกล่าวโดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า จากการทำงานร่วมกันมา 2 ปี ความคิดบางอย่างอาจแตกต่างกัน แต่เชื่อมั่นว่าวันนี้ทุกคนต้องกลับมามองประเทศไทยว่าจะต้องยืนอยู่ตรงไหนของประชาคมโลก และขอให้เชื่อมั่นว่า ตนไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องใดๆ ทุกอย่างทำเพื่อประเทศไทย และคิดว่าทุกคนรักประเทศไทยเช่นเดียวกับตน ขอให้ช่วยกันทำในสิ่งที่ดี เกิดความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศให้เร็วที่สุดตามนโยบายที่มีอยู่
      
      

“ขอให้ทุกคนอย่าเครียดในการทำงาน ผิดกับผมซึ่งเครียดทุกวัน เมื่อสักครู่นั่งรถมาก็มีเรื่องให้เครียด เพราะมีงานเข้ามาทั้งวัน หลายคนบอกให้ผมใจเย็นๆ อย่าไปรับมาทุกเรื่อง แต่ทำอย่างไรได้เพราะลงมาที่ผมทุกเรื่อง กลับไปกลับมาด่าใครไม่ได้ก็ด่านายกฯ ก่อน แต่ไม่เป็นไรผมรับได้ ยิ่งด่ายิ่งมีกำลังใจ การทำอะไรต้องเริ่มจากใจตัวเอง ต้องปฏิรูปตัวเองก่อนถึงจะปฏิรูปประเทศได้ ผมไม่ได้ว่าที่ผ่านมาดีหรือไม่ดี แต่วันนี้ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะปฎิรูปไปทำไม ประเทศชาติจำเป็นต้องฟื้นฟูในทุกด้าน รัฐวิสาหกิจก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะปฏิรูปให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในการพัฒนาประเทศ การลงทุนและธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพเข้มแข็ง มีคุณธรรมและธรรมาภิบาล ซึ่งพูดกันมานานตั้งแต่ผมยังเด็ก ทั้งเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ถ้าทุกคนรู้ว่าสิ่งดีควรทำสิ่งไม่ดีก็ไม่ควรทำ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ถือว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมแล้ว ก็จะทำให้องค์กรไม่เดือดร้อน เป็นองค์กรที่มีจริยธรรม จากนั้นก็จะขึ้นไปสู่การบริหารราชการที่มีธรรมาภิบาล สิ่งสำคัญต้องเสียสละและอดทน ต้องคำนึงถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และไม่ได้มุ่งหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว” นายกฯ กล่าว
      
      
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า การบริหารบ้านเมืองให้มีธรรมาภิบาลเกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือสร้างสังคมที่มีคุณธรรม สร้างองค์กรให้มีจริยธรรมและธรรมาภิบาลในการทำงาน ตนขอเวลาอีก 1 ปีตามโรดแมปที่วางไว้ ทำให้สังคมและประชาชนเดินไปด้วยกันได้ ไม่ใช่แบ่งเป็นสองข้างเสมอ เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ส่วนที่ไม่เห็นด้วยมีไม่มากนัก แต่ตนห่วงส่วนที่อยู่ตรงกลางซึ่งไม่รู้จะไปทางไหน เทไปเทมา ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์หากไหลไปรวมกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็ทำงานไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เปิดเผยโปร่งใส ต้องไม่ไปรวมหัวกันกระทำการทุจริต หรือทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องสร้างให้สังคมมีความเชื่อมั่น